Page 75 - kpiebook65062
P. 75

เปลี่ยนแปลงการปกครอง ใน พ.ศ. ๒๔๗๕ อย่างไรก็ดี ท่านเป็นหนึ่งในสถาปนิกสยามรุ่นบุกเบิก ที่ได้
                   ร่วมก่อตั้งสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๗๗ และในปีเดียวกันนั้นเอง
                   หม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ก็ถึงชีพิตักษัยเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๗ ชันษา ๔๖ ปี  ๕


                         ผลงานสถาปัตยกรรมของหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์มีจำนวนไม่มากชิ้น ทว่าเป็นอาคารที่สำคัญ
                   ออกแบบและก่อสร้างอย่างประณีต โดยวัสดุก่อสร้างและตกแต่งที่มีราคาสูง โดยมากเป็นงานที่ทำถวาย

                   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศ์ชั้นสูง ได้แก่ ตำหนักใหม่ วังสระปทุม (พ.ศ. ๒๔๖๙)
                   วังไกลกังวล (พ.ศ. ๒๔๗๒) การปรับปรุงหมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (พ.ศ. ๒๔๗๕) เป็นต้น ผลงาน
                   ของหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์จึงมิได้มีอิทธิพลต่อสถาปนิกไทยรุ่นหลังเท่าใดนัก ทั้งนี้ด้วยบริบทของสังคม

                   และวัฒนธรรมไทยที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นต้นมาด้วย
                   อย่างไรก็ดี บทบาทสำคัญประการหนึ่งของหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ คือการเขียนบทความเกี่ยวกับ

                   สถาปัตยกรรม วิชาชีพสถาปัตยกรรม และวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ ทั้งบทบรรยาย ปาฐกถา และ
                   ข้อเขียน ที่มีการตีพิมพ์ในสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ในช่วงปลายรัชกาลที่ ๖ และช่วงรัชกาลที่ ๗ เพื่อกระตุ้นให้
                   สังคมสยามเกิดความรู้ความเข้าใจในบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของวิชาชีพใหม่นี้  ๖


                   พระสาโรชรัตนนิมมานก์ (สาโรช สุขยางค์)


                         พระสาโรชรัตนนิมมานก์ นามเดิม สาโรช สุขยางค์ เกิดเมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๘
                   เป็นบุตรหลวงพัฒนพงษ์ภักดี (ทิม สุขยางค์) สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์และ

                   โรงเรียนสวนกุหลาบ ใน พ.ศ. ๒๔๕๖ ได้รับทุนกระทรวงธรรมการไปศึกษาวิชา ณ ประเทศอังกฤษ
                   โดยได้เข้าศึกษาชั้นเตรียมที่โรงเรียนเอาน์เดิล (Oundle) ซึ่งมีชื่อเสียงด้านวิชาวิศวกรรมศาสตร์และ

                   สถาปัตยกรรมศาสตร์ ตามความประสงค์ของกระทรวงธรรมการที่จะให้นายสาโรชกลับมารับราชการ
                   เป็นสถาปนิก  ต่อมาในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๘ จึงเข้าศึกษาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย
                   ลิเวอร์พูล (University of Liverpool) ซึ่งขณะนั้นถือกันว่าดีที่สุดในประเทศอังกฤษ ได้ฝึกงานตาม

                   บริษัทสถาปนิกต่าง ๆ และได้ศึกษา “วิชาสร้างเมือง” (town planning or civic design) อีกด้วย
                   จนสำเร็จการศึกษาวิชาสถาปัตยกรรม และประกาศนียบัตรการวางแผนผังเมือง จากมหาวิทยาลัย

                   ลิเวอร์พูล ในวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๓ และเดินทางกลับมายังประเทศไทยในปีเดียวกัน  ๗
                   เข้ารับราชการในกองสถาปนิก กระทรวงธรรมการ มีผลงานออกแบบที่สำคัญในช่วงแรก ได้แก่ อาคาร
                   ในโรงพยาบาลศิริราช










                     สถาปัตย์ใต้ร่มฉัตรพระปกเกล้าฯ
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80