Page 336 - kpiebook65024
P. 336
335
ทั้งปวง เมื่อพิจารณาจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (2560) กฎหมายก�าหนดให้มี
46
ศาลที่ท�าหน้าที่พิจารณาอรรถคดี ดังนี้
(1) ศาลยุติธรรม 47
ศาลยุติธรรมมีอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง เว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญ
หรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอ�านาจของศาลอื่น ทั้งนี้ ยังก�าหนดให้ศาลยุติธรรม
มีแผนกคดีอาญาของผู้ด�ารงต�าแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ซึ่งได้รับคัดเลือกโดยที่
ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจ�านวนไม่น้อยกว่า 5 คนแต่ไม่เกิน 9 คนตามที่บัญญัติไว้ใน
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ด�ารงต�าแหน่ง
ทางการเมือง มีอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
(2) ศาลปกครอง 48
ศาลปกครองมีอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครองอันเนื่องมาจากการใช้
อ�านาจทางปกครองตามกฎหมายหรือเนื่องมาจากการด�าเนินกิจการทางปกครองตามที่
กฎหมายบัญญัติ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการวินิจฉัยชี้ขาดขององค์กรอิสระซึ่งเป็นการใช้อ�านาจ
โดยตรงตามรัฐธรรมนูญขององค์กรอิสระนั้น ๆ ด้วย
(3) ศาลทหาร 49
ศาลทหารมีอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาที่ผู้กระท�าความผิดเป็นบุคคล
ซึ่งอยู่ในอ�านาจศาลทหารและคดีอื่น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ
46 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 : มาตรา 188
47 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 : มาตรา 194-196
48 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 : มาตรา 197-198
49 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 : มาตรา 199