Page 221 - kpiebook65022
P. 221
3) ทรัพยากรธรรมชาติ จากข้อค้นพบ ทรัพยากรที่ก าลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตคือป่าไม้และ
ทรัพยากรน้ า ส าหรับทรัพยากรป่าไม้มีความท้าทายส าคัญเรื่องของคนกับป่าจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ประกอบ
กับ มีกฎหมายป่าไม้ฉบับใหม่ พ.ร.บ.ป่าไม้ 2562 จึงควรมีการศึกษาว่าคนอยู่ร่วมกับป่าส่งผลบวกหรือลบ
เพียงใดต่อความยั่งยืนของทรัพยากร และภายใต้กฎหมายใหม่นี้มีกลไกที่เอื้อให้คนอยู่ร่วมกับป่าอย่างไรบ้าง
ส าหรับทรัพยากรน้ ามีกฎหมายที่มีความส าคัญอย่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ าแห่งชาติ พ.ศ.2561 ที่มีเป้าหมาย
บูรณาการการบริหารจัดการน้ าของประเทศ จึงควรมีการศึกษาในเชิงค้นหาผลิตภาพในการใช้น้ าของภาคส่วน
ต่าง ๆ ทั้งภาคอุปโภคบริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม การคมนาคม ระบบนิเวศ การท่องเที่ยว ฯลฯ เพื่อ
ก าหนดนโยบายน้ าในภาพรวมของประเทศได้อย่างสอดคล้องกับความต้องการของแต่ละภาคส่วน
4) ความยั่งยืน จากข้อค้นพบความยั่งยืนในประเทศไทยได้ถูกก าหนดขึ้นในระดับนโยบายแต่ก็
เป็นเพียงวาทกรรม อย่างไรก็ดี ประเทศไทยมีกลไกคณะกรรมการพัฒนาที่ยั่งยืนตามระเบียบส านัก
นายกรัฐมนตรี (อ้างถึงแล้วในบทที่ 2) ซึ่ง Breuer et al. (2019) ได้ท าการส ารวจกลไกการพัฒนาที่ยั่งยืนใน
หลายประเทศ และพบว่ามีรูปแบบที่หลากหลายกันไป แต่ยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ผลการด าเนินงานหรือผลต่อ
การเปลี่ยนแปลงไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของกลไกเหล่านั้น จึงเป็นที่น่าสนใจและน่าจะศึกษาต่อว่าในเชิงสถาบัน
ที่มีอยู่เกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย เป็นรูปแบบการขับเคลื่อนที่เหมาะสมเพียงพอหรือไม่
อย่างไรในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศไทย มีแนวทางอย่างไรในการขับเคลื่อน
หรือเชื่อมโยงนโยบายความยั่งยืนไปสู่ระดับพื้นที่ เช่นที่ Breuer et al. (2019) 016) เห็นว่าสถาบันท้องถิ่นใน
หลายประเทศยังขาดบทบาทเข้าร่วมตัดสินใจในนโยบาย หรือมีข้อสังเกตว่าองค์กรเชิงสถาบันที่ขับเคลื่อนการ
พัฒนาที่ยั่งยืนในแต่ละประเทศนั้นได้ท าให้เกิดผลการเปลี่ยนแปลงหรือไม่เพียงใด
งานวิจัยในอนาคตเชิงวิธีการ
ผู้วิจัยขอน าเสนอในส่วนที่ควรจะมีหัวข้อวิจัยเกี่ยวกับการเมืองสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่าง
ยั่งยืน ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ยังไม่อาจด าเนินการได้ ดังนี้
1) งานวิจัยนี้ศึกษาการเมืองสิ่งแวดล้อมจากกลุ่มเป้าหมายที่มาจากภาครัฐ ประชาสังคม และ
วิชาการ เป็นหลัก จึงควรมีการศึกษาการเมืองสิ่งแวดล้อมเพื่อไปสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมุมมอง
ของตัวแสดงอื่น เช่น ภาคธุรกิจ พรรคการเมือง เป็นต้น ว่าการเมืองสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยที่ด าเนินการ
อยู่นั้นได้ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแล้วหรือไม่ อย่างไร และต้องด าเนินการอย่างไรต่อไป
เพื่อให้การศึกษามีมุมมองที่ครบถ้วนจากกลุ่มที่หลากหลายมากขึ้น
2) ฐานข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยนี้ เป็นการสืบค้นที่จ ากัดบางฐานข้อมูลเพื่อก าหนดขอบเขตใน
การวิจัย บทวิเคราะห์เกี่ยวกับช่องว่างของประเด็นการศึกษาเรื่องการเมืองสิ่งแวดล้อม จึงเป็นไปตามจ านวน
และเอกสารที่ค้นพบ จากฐานข้อมูลตามขอบเขตการวิจัยนี้เท่านั้น หากจะมีการศึกษาต่อไปในอนาคต
อาจขยายฐานข้อมูลที่ใช้ศึกษา ซึ่งอาจท าให้มีข้อค้นพบที่แตกต่างจากงานวิจัยนี้ก็ได้
3) งานวิจัยนี้ศึกษาเอกสารเพื่อส ารวจองค์ความรู้การเมืองสิ่งแวดล้อม จากงานวิจัยเป็นหลัก
เพื่อทบทวนว่ามีการวิจัยในเรื่องใดและอย่างไรในเชิงการเมืองสิ่งแวดล้อมบ้าง งานวิจัยในอนาคตจึงควรมีการ
ทบทวนการเมืองสิ่งแวดล้อมจากแหล่งข้อมูลอื่นที่สะท้อนนโยบายและการปฏิบัติจริง ได้แก่ เวทีวิชาการด้าน
สิ่งแวดล้อมในแต่ละรอบปี มีการน าเสนอประเด็นอะไรและมีทางออกอย่างไรบ้าง หรือแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ ตลอดจนนโยบายและแผนงานของหน่วยงานรัฐด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อทบทวนว่านโยบาย
และแผนเหล่านั้นในแต่ละช่วงของรัฐบาล ให้ความส าคัญกับประเด็นสิ่งแวดล้อมหรือไม่เพียงใด เมื่อเทียบกับ
208