Page 48 - kpiebook65019
P. 48
47
กำรยกร่ำงกฎหมำยที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของชุมชนในหลำย ๆ ฉบับที่ผ่ำนมำ
จนไม่สำมำรถที่จะท�ำให้มีกฎหมำยที่จะท�ำให้ชุมชนใช้สิทธิได้ สภำพกำรณ์
ดังกล่ำวเป็นเหมือนกับสุภำษิตในทำงกฎหมำยที่ว่ำ “ควำมยุติธรรมที่ล่ำช้ำ คือ
ควำมอยุติธรรม” ซึ่งในท�ำนองเดียวกัน “กำรบัญญัติกฎหมำยรับรองสิทธิที่ล่ำช้ำ
คือกำรปฏิเสธว่ำไม่มีสิทธิ”
(1) บุคคลหรือชุมชนนั้นได้ร้องขอให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องจัดให้ตนหรือชุมชนได้รับ
ประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐปฏิเสธไม่ด�าเนินการ
หรือไม่ด�าเนินการภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับการร้องขอหรือปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง และ
บุคคลหรือชุมชนได้โต้แย้งการด�าเนินการหรือไม่ด�าเนินการดังกล่าวเป็นหนังสือต่อหน่วยงานนั้น
ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบหรือวันที่ได้รับแจ้งหรือถือว่าได้รับแจ้ง และ
(2) บุคคลหรือชุมชนตาม (1) ได้ยื่นค�าร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินว่าหน่วยงานของรัฐ
ตาม (1) มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญภายในสามสิบวันนับแต่
วันที่มีหนังสือโต้แย้งตาม (1) ในกรณีนี้ หากผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าหน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่
ตามรัฐธรรมนูญถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้แจ้งให้ผู้ร้องและหน่วยงานของรัฐทราบ แต่หากผู้ตรวจการ
แผ่นดินเห็นว่าหน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วน ให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีทราบถึง
การดังกล่าว
(3) ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดินและสั่งการตามที่เห็นสมควร
ในการนี้ คณะรัฐมนตรีอาจมอบหมายให้คณะกรรมการหรือหน่วยงานใดเป็นผู้พิจารณาและเสนอ
ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก็ได้ เมื่อคณะรัฐมนตรีสั่งการเป็นประการใดแล้ว
ให้แจ้งให้บุคคลหรือชุมชนทราบ หากบุคคลหรือชุมชนเห็นว่าการสั่งการของคณะรัฐมนตรียังมิได้
ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ หมวด 5หน้าที่ของรัฐ อาจยื่นค�าร้องขอให้ศาลวินิจฉัย
ตามมาตรา 7 (4) ได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
ในระหว่างการพิจารณาคดีตามมาตรานี้ ให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
ไปก่อนจนกว่าศาลจะมีค�าวินิจฉัย
ให้ศาลวินิจฉัยคดีตามมาตรานี้ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันได้รับค�าร้อง