Page 62 - kpiebook65015
P. 62
61
(4) ควำมยุ่งยำกในกำรค�ำนวณจ�ำนวน ส.ส. : เนื่องจากระบบเลือกตั้ง
แบบนี้มีเพียงคะแนนเดียวท�าให้การค�านวณจ�านวนที่นั่ง ส.ส. ที่แต่ละพรรคจะได้รับ
หรือ “ส.ส.พึงมีได้” และจ�านวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจึงมีความยุ่งยากและซับซ้อนกว่า
การเลือกตั้งแบบมีสองคะแนน และที่เป็นปัญหาไปกว่านั้นคือวิธีการค�านวณจ�านวน
ส.ส. บัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 91 สามารถตีความได้มากกว่า
หนึ่งวิธี และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128
มีการก�าหนดรายละเอียดในการค�านวณบางประการที่แตกต่างไปจากรัฐธรรมนูญ
มาตรา 91 และโดยที่ส�านักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมิได้มีการประกาศวิธีการ
ค�านวณ หรือ “สูตรค�านวณ” ให้ชัดเจนก่อนการเลือกตั้ง ท�าให้เกิดปัญหาถกเถียง
กันมาก และกระทบต่อความเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งผู้วิจัยจะได้กล่าวถึงต่อไป
ที่ยุ่งยากยิ่งไปกว่านั้นคือ ด้วยเหตุที่ใช้คะแนนแบบแบ่งเขตในการก�าหนดจ�านวน
ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง
ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 131 ก�าหนดให้ภายในระยะเวลาหนึ่งปีหากมีการเลือกตั้งแบบ
แบ่งเขตใหม่เพราะเหตุที่การเลือกตั้งในเขตนั้น “มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม”
จะต้องมีการค�านวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่ ท�าให้ในช่วงหนึ่งปีแรกจ�านวน ส.ส.
ของแต่ละพรรคจะเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อย ๆ ดังกรณีที่เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ เขต 8
ที่ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ชนะเลือกตั้ง แต่พรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์
ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีกพรรคละหนึ่งคน โดยพรรคไทรักธรรมซึ่งได้ ส.ส.
แบบบัญชีรายชื่อหนึ่งคนในตอนแรกต้องเสียที่นั่งไป ท�าให้หัวหน้าพรรคไทรักธรรม
เป็น ส.ส. ได้เพียงแค่ 3 วัน เรื่องนี้จะยิ่งเป็นปัญหาหากพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลและ
พรรคการเมืองฝ่ายค้านมีจ�านวน ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎรที่คู่คี่กัน การที่เลือกตั้ง
24 มีนาคม 2562 กกต. ให้มีการเลือกตั้งใหม่เพียงครั้งเดียวจากเหตุเลือกตั้งมิได้เป็นไป
โดยสุจริตและเที่ยงธรรม ผู้วิจัยเห็นว่าเป็นเพราะเรื่องนี้เป็นสาเหตุส�าคัญ