Page 21 - kpiebook64013
P. 21
2) พัฒนาการทางด้านหน้าที่และอ�านาจของวุฒิสภาไทย
นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน
สมาชิกวุฒิสภามักมาจากการแต่งตั้งจนเกิดการปฏิรูปการเมือง
ในปีพ.ศ. 2540 โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
2540 ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมืองมากขึ้น
ดังเห็นได้จากการกำาหนดให้มีองค์กรอิสระทำาหน้าที่ตรวจสอบการใช้
อำานาจรัฐ กำาหนดให้ผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมืองและข้าราชการระดับสูง
สามารถถูกถอดถอนออกจากตำาแหน่งได้ รวมถึงเปลี่ยนแปลงที่มาและ
องค์ประกอบของสมาชิกรัฐสภา โดยวุฒิสภานั้นมาจากการเลือกตั้ง
โดยตรงจำานวน 200 คน นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2540 กำาหนดให้วุฒิสภามีอำานาจหน้าที่เพิ่มขึ้นจากเดิม
ที่สำาคัญได้แก่ การคัดสรรบุคคลเข้าดำารงตำาแหน่งในองค์กรอิสระและ
องค์กรสำาคัญต่างๆ รวมทั้งมี อำานาจหน้าที่ในการถอดถอนบุคคล
ที่กระทำาผิดตามที่กฎหมายบัญญัติออกจากตำาแหน่ง อย่างไรก็ตาม
หลักการดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปจากปัญหาที่มีการกล่าวอ้างว่า องค์กรอิสระ
หลายองค์กรถูกแทรกแซง รวมถึงการที่สมาชิกของสภาผู้แทนราษฎร
และวุฒิสภามีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติใกล้ชิด ทำาให้การปฏิบัติหน้าที่
ของสมาชิกวุฒิสภาทั้งในการนิติบัญญัติและการควบคุมการบริหารราชการ
แผ่นดินไม่มีประสิทธิภาพ ขาดความเป็นกลางตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้
ต่อมา รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
ได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขเกี่ยวกับสมาชิกรัฐสภาในหลายส่วน อาทิ สภาผู้แทน
ราษฎรประกอบด้วย สมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งมีจำานวน 480 คน
โดย 400 คน มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ส่วนอีก 80 คน มาจาก
การเลือกตั้งแบบสัดส่วน โดยการแบ่งเป็นแปดกลุ่มจังหวัด โดยสัดส่วน
21