Page 11 - kpiebook63031
P. 11

การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562
           10       จังหวัดอุบลราชธานี







                      จำานวนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย รวมทั้งสิ้น 6,477,480.40 บาท

             เฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ต่อ 1 คน คิดเป็น 647,748.04 บาท
             ผู้สมัครที่มีค่าใช้จ่ายมากที่สุดของพรรคภูมิใจไทย คือ นายแสง ศรีบุระ เขตเลือกตั้งที่ 8 จำานวน

             1,051,389.64 บาท แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง


                      3) การเปลี่ยนแปลงของขั้วอำานาจทางการเมือง การย้ายพรรคการเมือง ค้นพบว่า ผู้สมัครที่ย้าย
             พรรคการเมือง หรือเปลี่ยนแปลงขั้วอำานาจทางการเมืองจากพรรคเพื่อไทยไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ

             ประสบความล้มเหลวทั้งหมด ไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็น นางสาวโยธากาญจน์
             ฟองงาม พรรคพลังประชารัฐ (บุตรสาวนายสุพล ฟองงาม อดีต ส.ส.อุบลราชธานี และอดีตเลขาธิการ

             พรรคเพื่อไทย) นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ บุตรชายของนายอดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ (อดีตสมาชิก
             สภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย) หรือนายสุทธิชัย จรูญเนตร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย

             ปี 2554 เป็นต้น

                      4) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเมือง รวมทั้งการวิเคราะห์ผลกระทบการเลือกตั้ง ภายใต้

             รัฐธรรมนูญใหม่ พ.ศ. 2560 ที่เกิดขึ้นในเขตจังหวัดอุบลราชธานี ค้นพบว่า ปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อ

             การตัดสินการเลือกตั้ง คือ (1) ปัจจัยด้านพรรคที่สังกัด นโยบายของพรรค อุดมการณ์ทางการเมือง
             (พรรคที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพรรคที่ไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)
             (2) ปัจจัยด้านการจ่ายเงินซื้อเสียง (3) ปัจจัยด้านตัวบุคคล ตามลำาดับ โดยพบหลักฐานเชิงประจักษ์

             ที่สำาคัญ คือ


                      4.1) ปัจจัยด้านพรรคที่สังกัด


                      ข้อมูลจากการลงพื้นที่โดยการสำารวจพฤติกรรมการเลือกตั้งผ่านการทำาโพลสำารวจทั้ง 10 เขต
             มีข้อค้นพบที่สำาคัญคือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ชื่นชอบพรรคพลังประชารัฐ ในเขตจังหวัดอุบลราชธานี มักจะ

             เป็นผู้สูงวัย โดยมองว่าต้องการความสงบ ได้เงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คาดหวังให้ช่วยปลดหนี้ และไถ่ถอน
             ที่ดินคืน ขณะที่วัยทำางานหรือวัยกลางคนส่วนใหญ่จะชื่นชอบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีความเชื่อมั่น

             ในนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ คาดหวังให้มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า รวมทั้งแก้ไขปัญหา
             ยาเสพติดในชุมชนอย่างจริงจัง และประชาชนส่วนใหญ่ไม่ชื่นชอบในระบอบเผด็จการทหาร โดยมองว่า

             จะทำาให้เศรษฐกิจตกตำ่า ค้าขายไม่ได้เหมือนเดิม ทำาให้ไม่มีเงินใช้จ่ายและเป็นหนี้สิน


                      ขณะที่กลุ่มผู้ที่เริ่มมีสิทธิในการเลือกตั้งครั้งแรก (New Voter) ที่เป็นคนหนุ่มสาว นักเรียน นักศึกษา
             ที่เป็นคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มชื่นชอบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง


                      โดยคะแนนเสียงในการเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ที่พบว่าหลายเขตเลือกตั้ง

             คะแนนเสียงอยู่ในลำาดับที่ 3 เหนือพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคอื่นๆ หลายพรรค
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16