Page 63 - kpiebook63014
P. 63

62     การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562
                  จังหวัดสุรินทร์






                     การเลือกตั้งในปี 2562


                      หลังการรัฐประหารปี 2557 ระบบเลือกตั้งแบบใหม่ แบบจัดสรรปันส่วนผสม (MMA) ซึ่งถูกนำา
             มาใช้เป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งปี 2562 กำาหนดให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำานวน 500 คน

             แบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำานวน 350 คน และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 150 คน การเลือกตั้งครั้งนี้

             จะใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวเพื่อเลือกบุคคลที่ชื่นชอบเป็น ส.ส.เขต ขณะเดียวกันคะแนนที่เราเลือกบุคคล
             ที่ชื่นชอบในเขตเลือกตั้งไม่ว่าผู้สมัครเหล่านั้นจะชนะหรือแพ้ คะแนนจะถูกนำาไปให้พรรคการเมืองที่มี
             คนเลือกทุกคะแนน เพื่อนำาไปคำานวณจำานวนที่นั่ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรคนั้นๆ


                      คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญต้องการแก้ไขปัญหาการเมืองไทยที่เกิดขึ้นในอดีตโดยหามาตรการ

             ป้องกันมิให้บุคคลซึ่งเคยกระทำาการทุจริตต่อหน้าที่หรือทุจริตในการเลือกตั้งเข้าสู่อำานาจทางการเมืองและ
             กำาหนดโครงสร้างฝ่ายนิติบัญญัติที่มีความเหมาะสมกับประเทศไทยในอนาคต จึงได้กำาหนดหลักการใหม่

             ของระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสรุปได้ดังนี้


                      หลักคิดระบบเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เหมาะสมกับประเทศไทย เนื่องจากในอดีต
             คะแนนของประชาชนที่เลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งใดๆ ซึ่งไม่ได้คะแนน

             เป็นอันดับหนึ่งของเขตเลือกตั้งนั้นๆ กล่าวคือไม่ชนะการเลือกตั้ง คะแนนดังกล่าวแทบจะถูกทิ้งสูญเปล่า
             ดังนั้นหลักคิดของระบบเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เหมาะสมกับประเทศไทยจะต้องประกอบด้วย

             1) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรควรมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง 2) ระบบเลือกตั้งไม่ควรซับซ้อน
             ประชาชนเข้าใจง่าย 3) เพื่อเป็นการเคารพประชาชนที่ลงคะแนนเสียงจึงจะพยายามทำาให้คะแนนเลือกตั้งที่

             ประชาชนลงให้ทุกคะแนนมีความหมายไม่ว่าจะลงคะแนนให้บุคคลใด คะแนนนั้นส่วนใหญ่ไม่ควรสูญเปล่า
             4) เป็นระบบการเลือกตั้งที่ส่งเสริมให้ประชาชนสนใจออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 5) เข้ากับบริบทหรือวิถีชีวิต

             ของคนไทยโดยไม่ขัดกับหลักสากล เพื่อเป็นการทำาให้หลักคิดข้างต้นมีความเป็นไปได้ จึงกำาหนดให้มีการ
             เลือกตั้งแบบแบ่งเขตโดยใช้ระบบคะแนนเสียงข้างมากและนำาระบบสัดส่วนมาใช้ในการคำานวณแบบแบ่ง

             สัดส่วนการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อโดยใช้บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตใบเดียว และ
             ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตได้เขตละ 1 คนโดยนำาคะแนนของผู้สมัครสมาชิก

             สภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตของทุกคนมารวมเป็นคะแนนของพรรค และนำาคะแนนของทุกพรรคการเมือง
             มารวมเป็นคะแนนทั้งประเทศ จากนั้นให้หาค่าเฉลี่ยคะแนนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคควรจะ

             ได้ต่อ 1 คนคือ นำาคะแนนของทุกพรรคที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งประเทศหารด้วยจำานวนสมาชิกสภาผู้แทน
             ราษฎรทั้งหมดคือ 500 คน จากนั้นให้นำาค่าเฉลี่ยที่ได้ไปหารจำานวนคะแนนที่แต่ละพรรคได้เพื่อให้ได้มา

             ซึ่งจำานวนที่แต่ละพรรคจะพึงมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ (แดนชัย ไชวิเศษ, 2559, 3-4)
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68