Page 97 - kpiebook63012
P. 97
97
เครื่องกระจายเสียงตามแหล่งชุมชน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ แผ่นป้ายโฆษณา สื่อโทรทัศน์วิทยุ หรือเอกสาร
จากผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือจากคณะกรรมการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม คณะผู้วิจัยพบว่า ความแตกต่างทางประสบการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง
ตามกลุ่มอายุโครงสร้างประชาชน ทำาให้มีรูปแบบและวิธีการในการเลือกตั้งครั้งนี้แตกต่างกัน ดังนี้
1.1) กลุ่มประชากรอายุระหว่าง 18 – 22 ปี
ประชากรกลุ่มอายุ 18-22 ปี คือผู้ที่เกิดใน พ.ศ. 2540 - 2544 คิดเป็นร้อยละ 7.17 ของจำานวน
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจังหวัดพะเยา (กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดพะเยา, 2562) โดยมีประสบการณ์ทางการเมือง
ช่วงเหตุการณ์วิกฤตการณ์ทางการเมืองเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 การรัฐประหารเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557
และสำาหรับการเลือกตั้งนั้นกลุ่มประชากรกลุ่มนี้มีประสบการณ์ในการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562
เป็นครั้งแรก ทั้งนี้พบว่าประชากรกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งจะเรียนหนังสือหรือทำางานอยู่ต่างจังหวัด และได้เดินทางกลับมา
เพื่อใช้สิทธิ์เลือกตั้งในเขตภูมิลำาเนาจังหวัดพะเยา โดยประชากรกลุ่มนี้มีความสนใจ และตื่นตัวในการเลือกตั้ง
ครั้งนี้ค่อนข้างสูง ซึ่งเหตุผลที่สำาคัญคือการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก (First-time Voters)
และต้องการรักษาสิทธิ์ทางการเมืองของตน โดยมีความต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศ เช่น
ความคาดหวังต่อการเลือกตั้งครั้งนี้จะสามารถสร้างประชาธิปไตยในประเทศได้ พร้อมกับมีความสนใจในนโยบาย
ต่าง ๆ ที่พรรคการเมืองนำาเสนอ โดยเฉพาะนโยบายเรื่องการศึกษา นโยบายการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และ
นโยบายการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
สำาหรับประสบการณ์การเลือกตั้งครั้งแรก จึงยังทำาให้ประชากรกลุ่มนี้ไม่สามารถระบุความแตกต่าง
ระหว่างการเลือกตั้งครั้งนี้กับการเลือกตั้งที่ผ่าน ๆ มา แต่มีความเข้าใจในระบบการเลือกการเลือกตั้งภายใต้
รัฐธรรมนูญใหม่อย่างเห็นได้ชัด เช่น การเข้าใจถึงวิธีการลงคะแนนและการนับคะแนนพอสมควร และยังเห็นว่า
การเลือกตั้งผ่านบัตรเลือกตั้งใบเดียวสามารถเข้าใจง่าย สามารถเข้าถึงในกลุ่มทุกวัยได้ แต่อาจส่งผลต่อ
ความสับสนในการคำานวณคะแนนเพื่อจัดสรรที่นั่งของ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และคาดการณ์ว่าการที่ผู้สมัคร
รับเลือกตั้งจากพรรคเดียวมีหมายเลขแตกต่างกันในแต่ละเขตเลือกตั้งฯ ไม่มีผลต่อการสร้างความสับสนใน
เจตนารมณ์ของผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งแต่อย่างใด
รูปแบบการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารช่วงการเลือกตั้ง
พบว่า ประชากรกลุ่มนี้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้งฯ ผ่านรูปแบบการสนทนากับ
กลุ่มเพื่อนทั้งที่เป็นทางการ เช่น วิชาที่เรียนในสถาบันการศึกษา และการสนทนาแบบไม่เป็นทางการ เช่น
การจับกลุ่มสนทนากับเพื่อนอย่างเปิดเผยแต่จะเป็นลักษณะการพูดเล่น และมีสรรพนามแทนบุคคลที่กล่าวถึง
มากกว่าจะกล่าวถึงใครโดยตรง การสนทนาในประเด็นการเมืองและการเลือกตั้งกับคนในครอบครัวด้วย
รวมถึงการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่ตนชื่นชอบอุดมการณ์ทางการเมืองเพื่อช่วยรณรงค์หาเสียง เช่น
การเป็นอาสาสมัครแจกเอกสารประชาสัมพันธ์ เป็นต้น