Page 132 - kpiebook63011
P. 132
132 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดเชียงใหม่
ของสมาชิกพรรคที่เหมือนเป็นเจ้าของของพรรคด้วย เพราะการโหวตคัดเลือกไม่ใช่เกิดแค่การใช้ระบบ Primary
19
Vote ในการคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้งเท่านั้น แต่ในระดับสาขาพรรค หัวหน้าสาขาพรรคเองก็เกิดมาจาก
การโหวตของสมาชิกในจังหวัดนั้น ๆ ซึ่งหัวหน้าสาขาพรรคอนาคตใหม่มองว่า กระบวนการและวิธีการของ
การดำาเนินกิจการของพรรคเปิดโอกาสและให้ความสำาคัญต่อคนที่อยากเข้ามาทำางานกับพรรคอย่างแท้จริง
“ พรรคสร้างกระบวนการเรียนรู้ทางการเมืองให้กับพวกเราที่ไม่เคยมีประสบการณ์
ทางการเมือง เราเห็นบรรยากาศของความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค มีการโหวตทุกระดับ
เห็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนบรรยากาศทางการเมืองที่ไม่เคยเห็น ต�าแหน่งหัวหน้าสาขาไม่มี
เงินเดือนแต่มันเป็นงานที่เริ่มต้นมาจากการเป็นอาสาสมัครและท�ามาตลอดคนเลยโหวตให้
เราก็เหมือนยอมรับว่าเราคือคนที่ท�างานให้พรรคอย่างแท้จริง ทั้งที่พรรคให้สมาชิกทุกคน
ในจังหวัดสามารถสมัครเป็นหัวหน้าสาขาได้ มีการเรียกประชุม สมาชิก 150 คน ให้รับรอง
คนที่ได้รับการโหวตให้เป็นหัวหน้าสาขาพรรค การท�างานร่วมกันของสมาชิกสาขามาจาก
หลากหลาย มีตั้งแต่ข้าราชการผู้ใหญ่เกษียณมาและมีเยาวชน แม่บ้าน เมื่อมาท�างานร่วมกัน
แบบไม่เป็นทางการไม่มีขั้นตอนมากความเหลื่อมล�้าของคุณลักษณะของแต่ละคนก็ค่อย ๆ
สลายไป และสิ่งเหล่านี้คือคุณค่า วัฒนธรรมใหม่ที่พรรคอนาคตใหม่ก�าลังสร้าง” (สัมภาษณ์
หัวหน้าสาขาพรรคอนาคตใหม่ 17 มกราคม 2562)
นอกจากนั้น สาขาพรรคยังมีความสำาคัญในการเป็นจุดเริ่มต้นของการทำาความรู้จักผู้ที่สนใจในการเสนอตัว
เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพราะการใช้สาขาพรรคเปิดตัวและนำาเสนอวิสัยทัศน์อีกด้วย จากการสัมภาษณ์ผู้สมัคร
รับเลือกตั้งของพรรคอนาคตใหม่มีความคิดเห็นว่า ทีมงานของพรรคในระดับสาขาจังหวัดมีความสำาคัญมาก เพราะ
ต้องช่วยกันประเมินสถานการณ์และคอยเป็นฝ่ายสนับสนุนช่วยเหลือ โดยเฉพาะการประเมินคะแนนที่คาดว่า
จะได้เพราะเกี่ยวข้องกับระบบบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครเขตเลือกตั้งหนึ่งของพรรคอนาคตใหม่มองว่าหลายเขตเลือกตั้ง
ที่ประเมินกันไว้ พรรคอนาคตใหม่จะชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 การประเมินผิดเกิดจากการประเมิน
พรรคเพื่อไทยตำ่าไปเพราะคิดว่ากระแสมีแต่ไม่มากเท่ากับการเลือกตั้งที่ผ่านมา และนโยบายของพรรคเพื่อไทย
ที่จับต้องได้มากกว่า แต่แนวทางของอนาคตใหม่ออกมาในเชิงอุดมการณ์ทางการเมืองผสมกับนโยบายเชิงปฏิบัติการ
19 ระบบการคัดเลือกผู้สมัครขั้นต้น หรือ “ระบบไพรมารีโหวต” คือ การให้สมาชิกพรรคการเมืองมีส่วนร่วมในการเลือก
ว่าใครจะเป็นตัวแทนพรรคในการลงสมัคร ส.ส. ก่อน ส.ส. จะลงสู่สนามเลือกตั้ง ซึ่ง พ.ร.ป. พรรคการเมือง ได้บังคับให้
ทุกพรรคการเมืองต้องทำาตาม แต่คำาสั่งฉบับนี้ได้ยกเลิกระบบไพรมารีโหวตตาม พ.ร.ป. พรรคการเมืองและกำาหนดระบบการคัดเลือก
ผู้สมัคร ส.ส. แบบใหม่ขึ้นให้ใช้เฉพาะการเลือกตั้งที่กำาลังจะเกิดขึ้นในปี 2562 ระบบไพรมารีโหวตใน พ.ร.ป พรรคการเมือง หรือ
“แบบเดิม” นั้นมีขั้นตอนสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสำาหรับ ส.ส. สองแบบ คือ ส.ส. แบบเขตเลือกตั้งและ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ
ของพรรค ในการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง “คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง” ของแต่ละพรรค
จะเปิดรับสมัคร ตรวจสอบคุณสมบัติและจะส่งรายชื่อให้ “สาขาพรรคการเมือง” หรือ “ตัวแทนพรรคการเมืองประจำาจังหวัด”
เพื่อจัดการประชุมให้สมาชิกพรรคลงคะแนนเลือกผู้สมัครตามรายชื่อนั้น โดยมีข้อกำาหนด คือ พรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัคร
รับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ใดได้นั้น ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำาจังหวัดที่นั้น และ
ในการประชุม สาขาพรรคต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่า 100 คน หรือตัวแทนพรรคประจำาจังหวัดต้องมีสมาชิกมาประชุม
ไม่น้อยกว่า 50 คน ซึ่งสมาชิกจะลงคะแนนเสียงเลือกได้หนึ่งคน และผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 2 คนแรกของแต่ละเขตเลือกตั้ง
จะถูกส่งให้ “คณะกรรมการบริหารพรรค” ให้ความเห็นชอบ (iLaw, 2561)