Page 126 - kpiebook63011
P. 126
126 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดเชียงใหม่
พรรคพลังประชารัฐ อย่างไรก็ตามพรรคอนาคตใหม่ก็มีประเด็นที่น่าจับตามองในเรื่องของความยั่งยืนและ
การเป็นหนึ่งเดียวกันของผู้สมัคร ส.ส.ในระดับพื้นที่ “คะแนนที่มากเนี่ย ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ที่ตัวผู้สมัครหรอก
แต่เป็นเพราะหัวหน้าพรรค คนรู้จักหัวหน้า แล้วเราหาเสียงก็ต้องชูหัวหน้า ยอมรับว่ามีน้อยใจเหมือนกันเพราะ
เราก็อยากหาเสียงแบบนักการเมืองอื่น ๆ เอาตัวเองสู้ แล้วท�าให้คิดว่าแสดงว่าพรรคอาจมองว่า ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
ส�าคัญกว่า ส.ส.เขต และไม่คาดหวังว่าเขตจะชนะ แต่อีกประเด็นที่ได้ยินจากชาวบ้านคือ เขาชอบเพื่อไทย
แต่คิดว่าพรรคอนาคตใหม่คือพวกเดียวกับพรรคเพื่อไทย แล้วมีหัวคะแนนมาบอกว่าให้แบ่งคะแนนมาให้
อนาคตใหม่ด้วย” (สัมภาษณ์ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 19 มิถุนายน 2562)
พรรคอนาคตใหม่ในฐานะที่เป็นพรรคใหม่ ผู้วิจัยได้สอบถามเกี่ยวกับการจัดตั้งระบบหัวคะแนน
ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์พบว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่มีระบบหัวคะแนนในรูปแบบอย่างที่เคยเกิดขึ้น นั่นคือ
ความเข้าใจที่หัวคะแนนต้องเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และใช้เงินในการซื้อเสียง แต่พรรคอนาคตใหม่เรียกว่า
กลุ่มผู้สนับสนุนที่ไม่ใช้เงิน แต่เคยมาเข้าร่วมกิจกรรมของพรรคอนาคตใหม่ นอกจากนี้ทางพรรคอนาคตใหม่
มีระบบการเลือกกรรมการประจำาเขตโดยการเลือกจากสมาชิกในอำาเภอนั้น ๆ โดยทีมสาขาพรรคจะช่วยกันคิด
และปรึกษากรรมการบริหารพรรคที่รับผิดชอบภาคเหนือ ในการกำาหนดกลุ่มเป้าหมายในการหาเสียง เช่น กรณี
ของเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นเขตอำาเภอเมือง จะเน้นชนชั้นกลาง กลุ่มนักธุรกิจ และนักศึกษา ในช่วงก่อนการลง
คะแนนเสียงเลือกตั้งมีการประเมินว่ากลุ่มชนชั้นกลางในเขตอำาเภอเมืองได้มีการตัดสินใจในการลงคะแนนเสียง
ไว้แล้ว แต่กลุ่มที่น่าจะเป็นคะแนนแกว่ง (Swing Vote) คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ดังนั้น การประเมินคะแนนเสียง
ของพรรคในแต่ละเขตเลือกตั้งจะทำาเป็นระยะ ๆ ซึ่งทีมสาขาพรรคที่เป็นทีมสนับสนุน พบว่าประเด็นสำาคัญ
ที่พรรคต้องทำาคือ การสร้างความเชื่อมั่นในฐานะพรรคใหม่ และการดึงเอาประชาชนมามีส่วนร่วมกับพรรคใน
การจัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก เช่น พรรคมีการจัดกิจกรรมวิ่ง,
กิจกรรมการปั่นจักรยาน หรือแม้แต่การขายสินค้า โดยผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
นอกจากต้องหาเสียงโดยตอกยำ้านโยบายของพรรคแล้ว ต้องเน้นยำ้าเรื่องของการกระจายอำานาจมาสู่ท้องถิ่น
เพราะจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีการเรียกร้องในเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน
ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ถ้ามีการซื้อเสียงเอาเงินมาซื้อสู้กัน
ในพื้นที่เขตเลือกตั้งต่าง ๆ ในเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยจะแพ้การเลือกตั้ง แต่ถ้าไม่มีการซื้อเสียงเลยพรรคเพื่อไทย
จะชนะการเลือกตั้งทุกเขต การซื้อเสียงที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและในวันเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 มีมากและ
ไม่น้อยลงจากเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ เงินมีอิทธิพลน้อยลงต่อการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย
ยังคงยึดสิ่งที่คุณทักษิณพูดคือ “ต้องท�าให้การเมืองท�าให้ชีวิตคนง่ายขึ้น” และการใช้ยุทธศาสตร์เชิงนโยบายสู้
เพราะการเมืองไทยยังไม่สามารถแข่งขันเชิงอุดมการณ์เพื่อการชนะการเลือกตั้งได้ การวางแนวทางการแข่งขัน
การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยนับตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยคือ การใช้นโยบาย ซึ่งผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค
เพื่อไทยต่างกล่าวว่าจะไม่มีพรรคไหนยกเลิกนโยบายที่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย
เคยทำาไว้ในตอนที่เป็นรัฐบาล สิ่งที่ทำาได้มากที่สุดคือการลดขนาดหรือเม็ดเงินลง แต่จะไม่มีวันยกเลิก และเชื่อว่า