Page 101 - kpiebook63011
P. 101

101








                  กลุ่มคนอีกกลุ่มที่ยังไม่เคยใช้สิทธิเลือกตั้งเช่นกัน (โพสต์ทูเดย์ออนไลน์, 2561) และ กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มชนชั้นกลาง

                  ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการศึกษาหรือทำาการค้า ทำาธุรกิจมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับระบบตลาด มีการทำาอาชีพ
                  ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจในพื้นที่


                          ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐที่เชื่อว่าเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาล มีการส่งผู้สมัครครบ 9 เขตเลือกตั้ง

                  และผู้สมัครทุกคนมีประสบการณ์ในการแข่งขันการเลือกตั้งทั้งในการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น ข้อมูล
                  จากผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐและผู้สนับสนุนพรรคต่างเห็นว่า พรรคพลังประชารัฐประเมิน

                  ฐานคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทย และทราบดีว่ามีความเข้มแข็ง วิธีการสำาคัญคือการสลายเครือข่ายท้องถิ่น
                  ในพื้นที่ก่อน ด้วยความได้เปรียบของพรรคคือ การที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ยังมีอำานาจและบริหารจัดการนโยบาย

                  รัฐอยู่ ไม่ได้เป็นรัฐบาลรักษาการณ์ในระหว่างการเลือกตั้ง ความพยายามแข่งขันกับพรรคเพื่อไทยในพื้นที่จังหวัด
                  เชียงใหม่ จึงมีทั้งในรูปแบบของการปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ การหาเสียงของแกนนำาพรรคตามพื้นที่เขตเลือกตั้ง

                  การเชื่อมโยงนโยบายของพรรคกับนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะนโยบายบัตรคนจน

                          หากวิเคราะห์จากข้อมูลของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐจะพบว่า การตัดสินใจลงเลือกตั้งในพื้นที่

                  จังหวัดเชียงใหม่ ถ้าไม่ได้ลงในนามพรรคเพื่อไทยก็ต้องดูว่าพรรคการเมืองไหนมีศักยภาพที่จะชนะพรรคเพื่อไทย

                  ในการเลือกตั้ง เมื่อพรรคพลังประชารัฐประกาศชัดเจนในการยึดครองที่นั่งของภาคเหนือ ยิ่งตอกยำ้าได้ว่า
                  พรรคพลังประชารัฐต้องการชิงพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยมีความเข้มแข็งมากในพื้นที่
                  เชียงใหม่ ดังนั้น ในช่วงก่อนประกาศผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐคือ พรรคที่ทั้งอดีตนักการเมือง

                  และนักการเมืองท้องถิ่นพยายามนำาเสนอตัวเพื่อเป็นจะมีโอกาสเป็นตัวแทนพรรคในการลงแข่งขันเลือกตั้งใน

                  จังหวัดเชียงใหม่


                                       “พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคใหม่ก็จริง แต่ตอนที่คุยกัน เค้าสู้ทุกเขตเลือกตั้ง ความที่
                                ไม่มีเขตไหนแข็งเท่าเพื่อไทย เลยต้องเน้นการหาเสียงทุกพื้นที่ แต่ชอบและมั่นใจในนโยบายพรรค
                                เรื่อง สวัสดิการแห่งรัฐ ถึงแม้คนจะโจมตีเยอะ แต่งบที่ใช้มาท�าแค่ 2% เอง เราต้องอธิบายให้

                                คนเข้าใจ แต่เพราะชาวบ้านชอบและพี่ (ผู้สมัคร) คิดว่าจะใช้ในการหาเสียงได้ดี โดยเฉพาะกับ

                                ผู้มีรายได้น้อย ชาวบ้านรู้สึกว่าการใช้เงินมันสะดวกมากขึ้น เอาบัตรไปรูดเอาของกินได้เลย...”
                                (สัมภาษณ์ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ จังหวัดเชียงใหม่ 20 มกราคม 2562)


                          อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐยอมรับถึงความยากลำาบากในการเจาะฐาน

                  คะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยและการหาเสียงในนามของพรรคพลังประชารัฐในบางหมู่บ้าน บางอำาเภอ เพราะ
                  ความนิยมภักดีที่มีต่อพรรคเพื่อไทยและตระกูลชินวัตร ทั้ง ดร.ทักษิณ ชินวัตร และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

                  อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งมีสูงมากทั้งภาพของการมาจากการเลือกตั้งและการเป็นคนพื้นเพจังหวัดเชียงใหม่ที่ฐาน
                  ความนิยมพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งมาจากความเป็นท้องถิ่นนิยม และเมื่อเกิดการรัฐประหารย่อมส่งผลต่อมุมมอง

                  ที่มีต่อพรรคพลังประชารัฐที่เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของรัฐบาล คสช. นำาโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังนั้น
                  การหาเสียงของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐจึงต้องผสมผสานการหาเสียงระหว่างการนำานโยบายพรรคที่เป็น
   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106