Page 45 - kpiebook63008
P. 45

45








                  รวมถึงการปราศรัยในช่วงเวลาการหาเสียงเลือกตั้ง การสร้างความเป็นท้องถิ่นนิยม ทั้งนี้เพื่อรักษาฐานเสียงและ

                  สร้างคะแนนนิยม (บูฆอรี หยีมะ, 2549 และ รุจน์จาลักษณ์รายา คณานุรักษ์, 2551)


                            สำาหรับนักการเมืองจังหวัดอื่น ๆ ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง
                  สิ่งที่มีผลต่อความสำาเร็จในการเลือกตั้งของนักการเมืองล้วนแล้วแต่มีลักษณะและรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน กล่าวคือ

                  การเมืองในยุคอดีตส่วนใหญ่แล้วกลุ่มนักการเมืองมักมีพื้นฐานทางสังคม เศรษฐกิจและครอบครัว โดยเฉพาะ
                  พื้นฐานการเป็นข้าราชการ และกลุ่มธุรกิจพ่อค้าของจังหวัด ความเป็นตระกูลการเมืองจึงเกิดขึ้นจากพื้นฐาน

                  ดังกล่าว และทำาให้เกิดการผูกขาดในระยะแรกของการเมืองในระบบเลือกตั้ง เช่น ในจังหวัดพิษณุโลก
                  นักการเมืองในยุคแรกจะมาจากข้าราชการจนกระทั่งปี 2512 จึงเป็นเปลี่ยนมาเป็นนักการเมืองที่มาจากพ่อค้า

                  เช่น ตระกูลชามพูนุท ตระกูลภักดิ์ประไพ และไกรฤกษ์ สำาหรับสิ่งที่นักการเมืองใช้เป็นกลยุทธ์และรูปแบบ
                  การหาเสียงที่สำาคัญคือ การลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างสมำ่าเสมอ การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่

                  การจัดตั้งระบบหัวคะแนน การสร้างเครือข่ายทางสังคม ดังนั้นความสัมพันธ์ส่วนบุคคลและพฤติกรรมส่วนตัว
                  ในพื้นที่เลือกตั้งจึงมีความสำาคัญต่อชีวิตความเป็นนักการเมือง (ชาญณวุฒิ ไชยรักษา, 2549) ในการเมืองจังหวัด

                  ฉะเชิงเทรา ภูมิหลังของนักการเมืองส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดี มีชื่อเสียงเป็น
                  ที่รู้จักของคนในพื้นที่ต่อเนื่องมาจากรุ่นบิดาหรือรุ่นพ่อ การสืบทอดทางการเมืองจึงมีลักษณะเป็นเครือญาติ

                  โดยเฉพาะสองตระกูลการเมืองสำาคัญคือ ตระกูลตันเจริญ และตระกูลฉายแสง โดยที่พรรคการเมืองที่สังกัด
                  มิได้มีผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนนเสียงของประชาชนมากนัก การเมืองจังหวัดฉะเชิงเทราจึงเป็นเรื่อง

                  ของตัวนักการเมืองในการทำากิจกรรมหาเสียง การลงพื้นที่พบประชาชน การสร้างกลุ่มเครือข่ายสนับสนุน
                  ระบบหัวคะแนนในพื้นที่ (ศรุดา สมพอง, 2551)


                            ในการเมืองถิ่นว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระดับจังหวัดนั้นแม้ว่า
                  จะมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมากทั้งในพฤติกรรมการตัดสินใจลงคะแนนเสียงของประชาชน

                  และพฤติกรรมของนักการเมืองที่เกิดการเปลี่ยนถ่ายระหว่างนักการเมืองรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ก็ตาม หากแต่

                  ความเป็นตระกูลการเมืองของจังหวัดยังคงมีอิทธิพลในทางการเมืองค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่น ตระกูลการเมือง
                  ของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งประกอบด้วย 4 ตระกูลสำาคัญ ประกอบด้วย ตระกูลศิลปอาชา ตระกูลโพธสุทธน
                  ตระกูลเที่ยงธรรม และตระกูลประเสริฐสุวรรณ ซึ่งผลงานทางการเมืองนั้นได้รับการยอมรับและเป็นแรงจูงใจ

                  สำาคัญในการตัดสินใจลงคะแนนเสียงสนับสนุนในการเลือกตั้ง หากแต่ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

                  ด้วยมีคนรุ่นใหม่จำานวนมากที่เติบโตและมีบทบาททางสังคม เศรษฐกิจรวมถึงการเมืองเป็นลำาดับ คนรุ่นใหม่
                  เหล่านี้จึงมีค่านิยม ความคิดและความเชื่อทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย ผลก็คือความคิดต่างทางการเมือง
                  จึงมีมากขึ้นพร้อม ๆ กับการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่พร้อมจะเปลี่ยนไปให้การสนับสนุนนักการเมือง

                  และพรรคการเมืองอื่น ๆ  ที่เข้ามาแข่งขันในสนามการเมืองของจังหวัด กรณีดังกล่าวชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัด

                  ในผลการเลือกตั้งปี 2554 ที่ผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นที่มิใช่ตระกูลการเมืองจากพรรคการเมือง
                  ขนาดใหญ่ที่ครองพื้นที่มาอย่างยาวนานคือพรรคชาติไทยพัฒนาจะชนะการเลือกตั้งได้ หากแต่ปรากฏว่า
                  ผู้สมัครจากพรรคการเมืองที่มุ่งเน้นการนำาเสนอนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและมุ่งหวังนำาไปนโยบายไปสู่

                  การปฏิบัตินั้นชนะการเลือกตั้ง (ณัฐพงศ์ บุญเหลือ, 2556)
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50