Page 91 - kpiebook63006
P. 91
91
กลยุทธ์การหาเสียงที่เน้นที่ตัวพลเอกประยุทธ์ยิ่งถูกตอกยำ้าเป็นอย่างมาก ในสัปดาห์สุดท้าย
ก่อนการเลือกตั้งเมื่ออภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกแคมเปญหาเสียงว่าตนเองและพรรค
ประชาธิปัตย์ ไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไปหลังการเลือกตั้ง เพราะไม่ต้อง
การให้คสช. สืบทอดอำานาจทางการเมืองต่อไป คะแนนเสียงทั้งในส่วนตัวบุคคลและพรรคของวันชัยจึงทวี
เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อพูดคุยกับประชาชนและพิจารณาจากโพลล์ที่นักการเมืองทำาเองเป็นส่วนตัว
แตกต่างจากในช่วงแรก และช่วงกลางของการหาเสียงเป็นอย่างมากที่คะแนนนิยมทั้งที่เป็นส่วนตัวของ
วันชัย และกระแสความนิยมที่มีต่อพรรคพลังประชารัฐมีน้อยถึงขนาดอาจจะไม่ติดในอันดับที่ 3 เสียอีก
(ภูวสิษฐ์ สุขใส, สัมภาษณ์ 2 เมษายน 2562)
ส่วนการหาเสียงในกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ หรือผู้มีสิทธิโดยทั่วไปที่ไม่ใช่กลุ่มผู้รับบัตรสวัสดิการ
แห่งรัฐก็จะเน้นในประเด็น “5 ปีของความสงบของลุงตู่ ฝีมือรัฐบาลลุงตู่ ไม่มีเผาบ้านเผาเมือง” เนื่องจาก
คนสงขลาโดยส่วนใหญ่ยังคงมีทัศนคติในเชิงลบต่ออดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และพรรคการเมือง
ที่มีส่วนสัมพันธ์เชื่อมโยงกับเขา เช่น พรรคเพื่อไทย ดังนั้น หลังเหตุการณ์การประกาศไม่สนับสนุน
พลเอกประยุทธ์ของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำาให้คนกลุ่มอื่นๆ ที่มีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์
มาอย่างยาวนาน ก็มีท่าทีให้การสนับสนุนวันชัยและพรรคพลังประชารัฐเพิ่มสูงขึ้น (คณะทำางานของ
นายวันชัย ปริญญาศิริ, สัมภาษณ์ 14 มี.ค. 2562, ภูวสิษฐ์ สุขใส, สัมภาษณ์ 2 เมษายน 2562)
นอกจากนั้น คณะทำางานของวันชัยยังเห็นว่า การแข่งขันกับสรรเพชญง่ายกว่า มีโอกาสมากกว่า
ในการชนะเลือกตั้งเมื่อเทียบกับเจือ เพราะกระแสความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ต่างพูดกันอย่าง
กว้างขวางว่า ตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ขาดความสง่างามเพราะอาศัยบารมีของบิดาปูทางในทาง
การเมือง และยังนับเป็นการผูกขาดทางการเมืองในจังหวัดสงขลา เนื่องจากบิดาครองอำานาจในการเมือง
ระดับท้องถิ่นแล้ว มารดายังเป็นผู้บริหารสูงสุดของข้าราชการในระดับเทศบาลนครสงขลาอีกด้วย
3. นายนราเดช คำาทัปน์ พรรคภูมิใจไทย อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายสมัย
และอดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็น
ครั้งแรกโดยมีความเชื่อมั่นสูงว่าจะได้รับการเลือกตั้ง หรือหากไม่ชนะเลือกตั้งก็จะได้คะแนนเสียง
ในสัดส่วนที่สูงจากบรรยากาศทางการเมืองที่เห็นว่า ประชาชนในเขตนี้ต้องการการเปลี่ยนแปลง
เพราะ 4 สมัยของอดีตส.ส. เจือ ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองแบบเดิมๆ
ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งจากพรรคการเมืองใหม่ และนักการเมืองใหม่ อีกทั้งนราเดช เป็นสมาชิก
สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดในเขตเลือกตั้งนี้มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี และในบทบาทการเป็นประธาน
สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดก็ดำาเนินงานได้อยู่ในระดับที่ดี มีชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
อย่างกว้างขวาง เป็นผู้มีอัธยาศัยไมตรีที่ดีมาก สังเกตได้จากบุคลิกภาพที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ
จนเป็นที่ประทับใจของผู้พบเห็นแม้กระทั่งเพิ่งรู้จักมักคุ้นกัน