Page 48 - kpiebook63005
P. 48

47








                          ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน เป็นปัจจัยสำาคัญที่ทำาให้รัฐบาล

                  ได้รับความนิยมจากประชาชนรากหญ้าเป็นจำานวนมาก ช่วงระหว่างปี 2559-2561 รัฐบาลได้อุดหนุนเงินทั้งสิ้น
                  128,022 ล้านบาทให้แก่ผู้ถือบัตร (ปี 2559 มีผู้ถือบัตร 7.5 ล้านคน ในปี 2560 มีถึง 11.67 ล้านคน) แต่เดิม

                  ผู้ถือบัตรไม่สามารถใช้เป็นเงินสดได้ แต่ต้องใช้ซื้อของในร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นสินค้าผูกขาด
                  จากบริษัททุนผูกขาดขนาดใหญ่ที่เป็นพันธมิตรแนบแน่นกับรัฐบาล ไม่นานก่อนการเลือกตั้ง คณะรัฐมนตรี

                  ได้อนุมัติงบ 38,000 ล้านบาทในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เพื่ออัดฉีดเป็นเงินสดให้ผู้ถือบัตรผ่าน
                  4 มาตรการ 1) สนับสนุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายปีคนละ 500 บาท 2) ช่วยเหลือค่านำ้า-ค่าไฟ นาน 10 เดือน

                  3) ช่วยเหลือค่าเช่าบ้านเดือนละ 400 บาท และ 4) ช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล 1,000 บาท
                                                                                                          81

                          กล่าวโดยรวมได้ว่า ในช่วง 4 ปีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้ดำาเนินการอัดฉีดงบประมาณ 473,968
                  ล้านบาท ให้ถึงมือประชาชนรากหญ้าประมาณ 17 ล้านคน ผู้รับผลประโยชน์ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและ

                  ผู้มีรายได้น้อย นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเบี้ยบำานาญให้แก่ข้าราชการเกษียณ เพิ่มเบี้ยคนพิการ (จาก 500 บาท
                  เป็น 800 บาท) มาตรการเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (จาก 400 บาททุกเดือนในปี 2558 เป็น

                                                                                82
                  600 บาททุกเดือนนับจากปี 2560) เงินอุดหนุนประกันสุขภาพ ฯลฯ  ยังมินับรวมถึงเบี้ยคนชราที่
                  เริ่มต้นตั้งแต่ 600 บาทต่อเดือน (อายุระหว่าง 60-69) ไล่ไป 700 และ 800 บาท ตามช่วงอายุ

                  หากอายุเกิน 90 ปีจะได้รับเดือนละ 1,000 บาท หรือก่อนหน้านี้มีการขึ้นเงินเดือนให้อาสาสมัครรักษา
                  ดินแดน (อส.) จำานวน 25,000 คน เมื่อต้นปี 2561 จากเดิม 13,000 บาทเป็น 16,000 บาทหรือเมื่อ

                  เดือนธันวาคม ปี 2560 มีการอนุมัติค่าตอบแทนให้อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ขณะที่เดือน
                  สิงหาคม ปี 2558 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติสวัสดิการรักษาพยาบาลให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน

                  (ชรบ.) ที่ประสบภัยจากการช่วยปฏิบัติราชการ รวมถึงหลังรัฐประหารเรื่อยมาเป็นเวลา 4 ปี ได้มีการ
                  ขึ้นเงินเดือนข้าราชการไม่น้อยกว่า 4 ครั้ง ตลอดจนมีการจ่ายเงินให้อดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (พคท.รอ.)

                  17,973 คน เป็นเงินทั้งหมด 3,783 ล้านบาท (ก่อนหน้านี้รัฐบาลพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ และรัฐบาล
                  อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยจ่ายเช่นกัน) ทั้งนี้ คนกลุ่มนี้เคยเดินขบวนประท้วงพรรคเพื่อไทย ทำาหน้าที่

                  ปกป้องศาลรัฐธรรมนูญและสนับสนุนรัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ โดยหน่วยงานที่คัดกรองคนเข้าโครงการนี้
                  คือ กอ.รมน.  เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น ก่อนการเลือกตั้ง รัฐบาลยังได้ขึ้นเงินเดือนอาสาสมัครสาธารณสุข
                             83
                  ประจำาหมู่บ้านหรือ (อสม.) จากเดือนละ 600 บาทเป็น 1,000 บาท ครอบคลุมจำานวนอสม.ถึง




                  81  “จัดหนักส่งท้ายปี อัดฉีดเงินเข้าบัตรคนจน บรรเทาภาระ เพิ่มกำาลังซื้อ หัวเกือบ 2 พัน!” (2 ธันวาคม 2561) https://
                  www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1902546 (เข้าถึงเมื่อ 2 ธันวาคม 2561)
                  82  Thaipublica, ““รัฐบาลลุงตู่” 4 ปี 4 แสนล้าน แจกเงินอุดหนุนประชาชนกว่า 17 ล้านราย” (4 มกราคม 2562) https://
                  thaipublica.org/2019/01/pracharat-4-years-prayut-government/ (เข้าถึงเมื่อ 6 มกราคม 2562)
                  83  “อ.รัฐศาสตร์ จุฬาฯ วิเคราะห์นโยบายหว่านเงิน ส่งพลังประชารัฐ คะแนนเสียงพุ่ง” ข่าวสด, 25 มีนาคม 2562
                  https://www.khaosod.co.th/election-2019/news_2346436 (เข้าถึงเมื่อ 25 ,นาคม 2562)
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53