Page 185 - kpiebook62014
P. 185
ส่วนส าคัญอย่างยิ่งเพราะที่ผ่านมาการฉวยโอกาสเรียกร้องทรัพย์สินเงินทองและผลประโยชน์บางอย่างเพื่อแลก
กับคะแนนเสียงก็มีความส าคัญอย่างยิ่ง ประกอบกับแรงเชียร์ของฝ่ายสนับสนุนผู้สมัครในการลงทุนทาง
การเมือง ด้วยเหตุผลว่า “อีกนิดเดียวจะชนะแล้ว” ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ขัดขวางต่อการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม
ด้วยเหตุนี้ กิจกรรมเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องความเป็นพลเมืองในระบอบ
ประชาธิปไตยสู่ชุมชน รวมไปถึงความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงในส่วนของข้อดี
ข้อเสียและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงได้รับการเสนอให้เป็นอีกกิจกรรมหนี่งในการเสริมสร้างชุมชนสมานฉันท์
และเข้มแข็งผ่านการรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียง
ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงได้จัดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการขึ้นเพื่อถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเรื่องความเป็น
พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยสู่ชุมชน ให้แก่ประชาชนในระดับหมู่บ้านจ านวน 8 หมู่บ้าน โดย การประชุม
เชิงปฏิบัติการนี้เป็นกระบวนการผสมผสานระหว่างการอบรมเผยแพร่ความรู้ โดยผู้วิจัยและผู้น าชุมชน การ
จัดท าเอกสารใบความรู้ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นเกี่ยวกับชุมชนเข้มแข็งและการส่งเสริมชุมชน
เข้มแข็ง จากนั้น ประเมินความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยใช้วิธีการแบบผสมผสานประกอบด้วย การสังเกต
พฤติกรรมความสนใจ การมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมประชุม การท าแบบทดสอบก่อนและหลังการประชุมเชิง
ปฏิบัติการ และโดยการสัมภาษณ์ผู้น าชุมชนต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคนในชุมชนเมื่อการประชุมเชิง
ปฏิบัติการผ่านมาสักระยะ
ผลการสังเกตพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการทั้ง 8 หมู่บ้าน พบว่า พฤติกรรมของผู้ที่เข้า
ร่วมประชุมส่วนใหญ่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยช่วงแรกของการประชุมผู้เข้าร่วมจะมีส่วนร่วมน้อย อาจเป็น
เพราะส่วนใหญ่ยังสงสัยในวัตถุประสงค์ของการจัดประชุม ต่อเมื่อผู้วิจัยได้กล่าวถึงเป้าหมายของโครงการวิจัย
เชิงปฏิบัติการในการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขาย
เสียง โดยกล่าวถึงความส าคัญของบทบาทพลเมืองต่อการส่งเสริมประชาธิปไตยผ่านกิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้ง
ไม่ซื้ อสิ ทธิ ขายเสี ยง ผู้วิจัยเริ่ มสังเกตว่ามีผู้เข้าร่ วมประชุ มบางส่ วนเริ่ มให้ความสนใจ
โดยส่วนใหญ่จะตั้งใจฟังไม่มีการพูดคุยกันเอง ไม่มีการแอบกลับไปก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงช่วงของการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผู้วิจัยพบว่าในทุกเวทีจะมีเพียงประชาชนบางคนเท่านั้นที่แสดงความคิดเห็น โดยความ
น่าสนใจคือหมู่ที่ 2 เป็นหมู่ที่มีผู้เข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็นมากที่สุดทั้งหญิงและชาย รองลงมาคือหมู่ที่ 4
และหมู่ที่ 11 ขณะที่ หมู่ที่ 3 มีการแสดงความเห็นน้อยที่สุดแม้ว่าจะมีจ านวนผู้เข้าร่วมมากที่สุด จึงเป็นที่น่าสนใจ
ว่าการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ได้ความรู้นั้นไม่ควรมีจ านวนคนมากเกิน 100 คน
ในส่วนของผลการท าแบบทดสอบก่อนและหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อประเมินความรู้ที่เพิ่มขึ้น
นั้น หากเปรียบเทียบเป็นรายหมู่บ้าน จะพบได้ว่าค่าคะแนนก่อนการอบรมนั้น พบว่าส่วนใหญ่ได้คะแนนหลัง
การอบรมเพิ่มมากขึ้น โดยหมู่ที่ 2 ได้คะแนนหลังเรียนเพิ่มขึ้นมากที่สุดจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ 7.33 จาก
169
