Page 67 - kpiebook62008
P. 67
๓๖
๘๐
ส่วนที่พึงมีพึงได้ของบุคคลนั้น” ดังนั้น เมื่อผู้ทรงสิทธิสามารถใช้สิทธิยันต่อผู้ใดได้ แสดงว่าผู้ที่ถูกใช้สิทธิอ้างยันได้
ย่อมมีหน้าที่ต่อผู้ทรงสิทธิ ในมุมกลับกัน หน้าที่จึงมีความหมายว่า “ความชอบธรรมในลักษณะเป็นความผูกพันให้
บุคคลตกอยู่ในสถานะจะต้องกระทำหรืองดเว้นกระทำการหรือยอมให้เขากระทำการเพื่อให้เป็นไปตาม
๘๑
ผลประโยชน์อันชอบธรรมของบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้ทรงสิทธิ” หากพิจารณาในมุมมองระหว่างรัฐและปวงชนชาว
ไทยแล้วจะพบว่า ปวงชนชาวไทยมีสิทธิเรียกร้องให้รัฐดำเนินการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ได้นานัปการ
เนื่องจากการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประสิทธิภาพเป็นหน้าที่หลักของรัฐ แต่การบริหารราชการแผ่นดินให้
สำเร็จลุล่วงไปได้ไม่อาจดำเนินการโดยรัฐบาล รัฐสภา และศาล ซึ่งเป็นองค์กรหลักของรัฐเท่านั้น กลับจำเป็นต้อง
อาศัยความร่วมมือร่วมใจจากประชาชนภายในรัฐด้วย หน้าที่ของปวงชนชาวจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญจนต้องมี
การบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเพื่อให้ปวงชนชาวไทยตระหนักถึงความสำคัญของหน้าที่ดังกล่าวและให้ความร่วมมือ
ในการบริการราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ หากมีการฝ่าฝืนหน้าที่ ย่อมต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติ เมื่อพิจารณา
เฉพาะลงไปในแง่ของการเงินการคลังของประเทศย่อมพบว่า การดำเนินการต่าง ๆ ของรัฐมีความจำเป็นต้องใช้เงิน
งบประมาณทั้งสิ้นซึ่งการหาเงินงบประมาณหลักจำเป็นต้องเป็นภาระของปวงชนชาวไทยในรูปของภาษีอากร การ
เสียภาษีอากรจึงถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ (๓.๑.๑) อย่างไรก็ตาม การ
กำหนดหน้าที่ในการเสียภาษีของปวงชนชาวไทยเป็นเพียงการกำหนดเพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเสีย
ภาษี รายละเอียดต่าง ๆ ในการเสียภาษีตลอดจนสภาพบังคับของการฝ่าฝืนการปฏิบัติตามหน้าที่ในการเสียภาษี
ต่างปรากฏอยู่ในกฎหมายลำดับชั้นต่ำกว่ารัฐธรรมนูญ (๓.๑.๒)
๓.๑.๑ หน้าที่ของผู้เสียภาษีตามรัฐธรรมนูญ
๖๘. ภาษีอากรเป็นรายได้ที่สำคัญที่สุดของรัฐ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยจึงต้องกำหนดภาษีอากรเป็น
หน้าที่ของปวงชนชาวไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (๓.๑.๑.๑) อย่างไรก็ตาม สถานะและผลทางกฎหมายของหน้าที่
ในการเสียภาษีอาจไม่สามารถพิจารณาเฉพาะรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แต่จำต้องพิจารณาถึงกฎหมาย
และกฎหมายลำดับรองต่าง ๆ ประกอบด้วย เนื่องจากการบัญญัติหน้าที่ของปวงชนชาวไทยเป็นไปเพื่อให้
ประชาชนภายในรัฐตระหนักถึงความสำคัญของการเสียภาษีอากรเท่านั้น (๓.๑.๑.๒)
๘๐ ปรีดี เกษมทรัพย์, กฎหมายแพ่ง : หลักทั่วไป, พิมพ์ครั้งที่ ๕ (กรุงเทพมหานคร : คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,
๒๕๒๖), หน้า ๘๓-๘๕ อ้างใน สมยศ เชื้อไทย, คำอธิบายวิชากฎหมายแพ่ง : หลักทั่วไป, พิมพ์ครั้งที่ ๒๐ (กรุงเทพมหานคร :
สำนักพิมพ์วิญญูชน, ๒๕๕๗), หน้า ๑๓๕.
๘๑ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๑๓๗.