Page 159 - kpiebook62008
P. 159
๑๒๘
Congress) ซึ่งประกอบไปด้วยสภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) และวุฒิสภา (Senate) โดย
อำนาจนิติบัญญัติดังกล่าว หมายถึง อำนาจในการกำหนดและจัดเก็บภาษีอากร ภาษีศุลกากร และภาษีสรรพสามิต
เพื่อการชำระหนี้ การป้องกันประเทศ และเพื่อสวัสดิการทั่วไปของสหรัฐ แต่อากร ภาษีศุลกากร และภาษี
สรรพสามิต ทั้งหลายต้องเป็นรูปแบบเดียวกันทั่วทั้งสหรัฐ อีกทั้งยังกำหนดหลักการเดียวกันกับการออกกฎหมายใน
การจัดเก็บอากรด้วย ดังจะเห็นได้จากมาตรา ๑๐ ที่กำหนดว่า “ห้ามมิให้มลรัฐใดจัดเก็บค่าอากรระวางเรือ ของ
เรือขนสินค้า เรือลำเลียงกองทหารเรือรบในยามรบโดยไม่ได้รับความยินยอมจากรัฐสภา” ทั้งนี้ มาตรา ๗ กำหนด
กระบวนการนิติบัญญัติทางภาษีไว้ว่าร่างรัฐบัญญัติเพื่อการเก็บรายได้จะต้องเริ่มการพิจารณาที่สภาผู้แทนราษฎร
ก่อน แต่วุฒิสภาสามารถเสนอหรือให้ความเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกับกรณีของรัฐบัญญัติอื่น
๒๕๖. ต่อมา รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (Amendments) ได้มีบทบัญญัติรองรับหลักการดังกล่าวไว้ใน
มาตรา ๑๖ ที่ได้กำหนดให้รัฐสภามีอำนาจที่จะกำหนดและจัดเก็บภาษีจากเงินได้ ไม่ว่าจะมาจากแหล่งใดก็ตาม
โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสัดส่วนกันระหว่างมลรัฐต่าง ๆ และโดยไม่ต้องคำนึงถึงการสำรวจสำมะโน ประชากรหรือการ
นับจำนวนพลเมือง จึงเห็นได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้อำนาจในการจัดเก็บภาษีเป็นอำนาจของฝ่ายนิติ
บัญญัติซึ่งถือเป็นอำนาจเด็ดขาด ฝ่ายบริหารจะก้าวล่วงมิได้โดยเด็ดขาด
๒๕๗. ดังนั้น หากพิจารณาการจัดเก็บภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกาจะต้องตราเป็นกฎหมายและให้อำนาจใน
การตรากฎหมายภาษีนั้นเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งอำนาจฝ่ายบริหารในเรื่องดังกล่าวมีแค่เพียงการบริหาร
จัดเก็บภาษีให้เกิดความเป็นธรรมและอำนาจในการนำเอาภาษีไปใช้จ่ายเท่านั้น
๒๑๕
๔.๒.๒ การกำหนดสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้เสียภาษีและองค์กรที่ปรึกษานโยบายภาษี
๒๕๘. Taxpayer Advocate Service (TAS) หรือ กลุ่มงานบริการเพื่อคุ้มครองผู้เสียภาษี เป็นหน่วยงานอิสระ
ภายใต้ IRS ที่มีบทบาทและหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้เสียภาษีโดยจะคุ้มครองสิทธิของผู้เสียภาษีและช่วยแก้ปัญหา
ใด ๆ ก็ตามที่ผู้เสียภาษีไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในระดับปัจเจกบุคคลหรือเป็นปัญหาที่
๒๑๕ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๖๔.