Page 196 - kpiebook62002
P. 196

ไทยมียุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่ส าคัญ คือ ยุทธศาสตร์การรักษา

               ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. 2560-2564 ที่จัดท าโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ และแผน
               ยุทธศาสตร์กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2563-2567 ซึ่งเป็นระเบียบพื้นฐานที่ทุกฝ่ายที่

               เกี่ยวข้องจะต้องจัดท านโยบายและแผนงานให้เป็นตามแนวทางที่ก าหนด รวมทั้งไทยมีกลไกที่เกี่ยวข้องงาน

               ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่สามารถแบ่งได้เป็นระดับนโยบาย เช่น สมช. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ
               และสังคม และระดับปฏิบัติ เช่น กสท. โทรคมนาคม บก.ปอท. ดีเอสไอ สพธอ อย่างไรก็ตาม ไทยยังคงมีความ

               ท้าทายที่เป็นอุปสรรคต่อการยกระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ ได้แก่ การสร้างความตระหนัก

               เกี่ยวกับความปลอดภัยและภัยคุกคามทางไซเบอร์ในวงกว้าง การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
               และการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

                       ดังนั้น การตรา พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 จึงเป็นจุดเปลี่ยนส าคัญใน

               การยกระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของไทย เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ได้ก าหนดให้มีคณะกรรมการ กมช.
               เป็นกลไกหลักในการด าเนินนโยบายด้านความั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ โดยเฉพาะการเป็นหน่วยงาน

               แม่ในการบูรณาการและประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและต่างประเทศ อีกทั้งกฎหมายยังบังคับให้

               ทุกหน่วยงานมีมาตรการพัฒนาบุคลากรด้านไอทีให้มีขีดความสามารถและเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัย
               ไซเบอร์ ตลอดจนการสร้างความตระหนักในการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยโดยเริ่มตั้งแต่ภายในหน่วยงาน

               จนถึงระดับประชาชน พร้อมกับส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชนและวิชาการในการวิจัยและพัฒนาด้าน

               ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ แต่ทั้งนี้การยกระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของไทยอย่างเป็นรูปธรรมยังอยู่
               ในระดับเริ่มต้น ซึ่งต้องใช้เวลาและเรียนรู้จากประสบการณ์และองค์ความรู้จากหลายๆ แหล่งเพื่อน ามา

               ประยุกต์ใช้พัฒนาและต่อยอดการพัฒนาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของไทย

                       เช่นเดียวกัน ความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับอาเซียนก็ถือว่าอยู่ในระยะเริ่มต้น
               เพราะเพิ่งเริ่มมีการผลักดันการยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างจริงจังเมื่อปี 2016

               โดยได้จัดตั้งการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (AMCC) และโครงการยกระดับ

               ความสามารถด้านไซเบอร์ของอาเซียน (ACCP) และตอกย้ าอีกครั้งในปี 2018 โดยสิงคโปร์ในฐานะประธาน
               อาเซียนผ่านแถลงการณ์ร่วมของผู้น าอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และการ

               แสดงเจตนารมณ์ร่วมระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ซึ่งความท้าทายหลักของการพัฒนาความร่วมมือด้าน

               ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับอาเซียน คือ หลักการพื้นฐานของความร่วมมือทั้งการไม่แทรกแซงกิจการ
               ภายในและความสมัครใจ ท าให้ข้อตกลงหรือนโยบายต่างๆ ของอาเซียนที่คลุมเครือในการประเด็นอ านาจของ

               รัฐไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย ซึ่งกระทบต่อความพยายามที่จะยกระดับความมั่นคงปลอดไซเบอร์ร่วมในระดับ

               ภูมิภาค เพราะการยกระดับไปพร้อมๆ กันของแต่ละประเทศเป็นหัวใจส าคัญของการจัดการภัยคุกคามทางไซ
               เบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ความตระหนักถึงความส าคัญของการยกระดับความมั่นคงปลอดภัยไซ

               เบอร์ที่แตกต่างกันของแต่ละชาติสมาชิกก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทาย อันเป็นผลสืบเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของ







                                                          [180]
   191   192   193   194   195   196   197   198   199