Page 193 - kpiebook62002
P. 193
มนุษย์ กระนั้นก็ตามไทยก็ได้พัฒนาตนเองเป็น “ศูนย์รวม” ความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์ที่ความ
ร่วมมือระหว่างประเทศเหล่านี้ผลักดันให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในไทยเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยที่
ไทยมีส่วนส าคัญในการพัฒนาสมรรถนะของประเทศเพื่อนบ้านให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
มากขึ้น อีกทั้งได้รับการเสริมสมรรถนะจากความร่วมมือกับประเทศนอกภูมิภาคโดยเฉพาะออสเตรเลียใน
โครงการออสเตรเลีย-เอเชีย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (AAPTIP) ที่สนับสนุนการจัดท า “แนวปฏิบัติส าหรับ
ผู้ปฏิบัติงานของอาเซียน ปี 2018” (ASEAN Practitioner Guidelines 2018) และ “รายงานความก้าวหน้า
ว่าด้วยการตอบสนองในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาต่อการค้ามนุษย์ในภูมิภาคอาเซียน” (Progress
Report on Criminal Justice Reponses to Trafficking in persons in the ASEAN Region)
ส าหรับแนวปฏิบัติที่ดี อินโดนีเซียถือเป็นตัวอย่างของแนวปฏิบัติจากต่างประเทศที่แสดงให้เห็นความ
พยายามปรับตัวบทกฎหมายและแนวปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังเพื่อยกอันดับใน
รายงานการค้ามนุษย์ (TIP Report) ขึ้น ความน่าสนใจประการหนึ่ง คือ การที่อินโดนีเซียรักษาระดับอยู่ในกลุ่ม
ที่ 2 คงที่ได้เป็นเวลาหลายปีในขณะที่เผชิญกับปัญหาการค้ามนุษย์ที่มีการน าคนเข้าออกประเทศเช่นเดียวกับ
ไทย ทั้งในเรื่องกฎหมายป้องกันการค้ามนุษย์ที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงเช่นการคุ้มครองเด็กและการบังคับใช้
กฎหมายที่จริงจัง 2 การใช้ผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวนคดีการค้ามนุษย์ การท างานร่วมกันอย่างใกล้ชิดพนักงาน
สอบสวนและฝ่ายพนักงานอัยการซึ่งช่วยให้การสั่งฟ้องด าเนินคดีมีประสิทธิภาพอย่างมาก ไปจนถึงการ
คุ้มครองและการระบุตัวเหยื่อการค้ามนุษย์ที่ค านึงถึงเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และมีความพยายามเชิงรุกใน
การน าเทคโนโลยีอย่างแอปพลิเคชันบนมือถือเข้ามาแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
ดังนี้ ไทยจึงต้องมุ่งท าให้การค้ามนุษย์เป็น “วาระหลัก” ที่ยั่งยืนไม่เปลี่ยนไปตามวาระของรัฐบาล โดย
ไทยควรใช้โอกาสของการเป็น “ศูนย์รวม” ของความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์ในอาเซียนซึ่งที่ไทยมี
ต้นทุนต้นความร่วมมือที่ดีอยู่ในปัจจุบันเพื่อสร้างมาตรฐานในภูมิภาคที่มุ่งให้การต่อต้านการค้ามนุษย์มี
ประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งในเชิงการด าเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย การคุ้มครองเหยื่อโดยค านึงถึงสิทธิมนุษยชน
และการพัฒนาแนวทางใหม่ ๆ เชิงรุกด้วยการใช้เทคโนโลยีซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นทิศทางที่ไทยก าลังมุ่งไปแต่ต้องการ
การพัฒนาระบบการท างานที่รองรับเพื่อความยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ต้องเริ่มคิดหาแนวทางที่จะป้องกัน
ปัญหาเสียแต่ต้นทางเพื่อยุติวงจรการค้ามนุษย์อย่างถาวร
บทที่ 3 การย้ายถิ่นแบบไม่ปกติ การย้ายถิ่นนั้นถือเป็นปรากฏการณ์ปกติที่ไทยเผชิญทั้งในฐานะ
ประเทศต้นทาง ทางผ่าน และปลายทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกระแสโลกาภิวัตน์และโดยเฉพาะอย่างบูรณา
การการเป็นประชาคมอาเซียนยิ่งผลักดันให้เกิดการเคลื่อนย้ายของคนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ความท้าทาย
หลักที่ไทยเผชิญอยู่ คือ การย้ายถิ่นแบบไม่ปกติ ซึ่งเข้ามาโดยวิธีการหรือเส้นทางการย้ายถิ่นอย่างไม่ปกติ อีก
ทั้งเป็นการย้ายถิ่นแบบผสม (mixed migration) ยังผสมกันทั้งผู้ที่ย้ายถิ่นด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจและผู้ที่
แสวงหาโอกาสในชีวิตซึ่งอาจกลายเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์หรือร่วมไปกับขบวนการลักลอบขนย้ายคน
กลไกรับมือปัญหาระดับชาติของไทยมีลักษณะที่เป็น “ระบอบการป้องกัน” (prevention regime)
ทั้งต ารวจอย่างส านักงานตรวจคนเข้าเมือง กองทัพเรือ ในเชิงนโยบายพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
[177]