Page 155 - b29420_Fulltext
P. 155
ดังนั้น แทนที่จะสนับสนุนให้ไม่มีการแข่งขันกันแต่ควรสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมด้วย
ความตั้งใจจริงใจระหว่างผู้สมัครในการบริการประชาชนมากกว่า เนื่องจากผู้ที่ได้รับประโยชน์ไม่ใช่ใครคือ
ประชาชนและชุมชนนั่นเอง
3. การหาเสียงคือเรื่องปกติของการเมือง
การหาเสียงกับการซื้อเสียงเป็นอีกประเด็นที่ผู้วิจัยมองว่าควรทำความเข้าใจให้กระจ่าง เพราะความเข้าใจ
ที่คาดเคลื่อนคลุมเครือและคาบเกี่ยวกันระหว่าง 2 แนวคิดนี้จะส่งผลต่อการดำเนินโครงการที่ผิดพลาด
จึงจำเป็นต้องแยกระหว่างการหาเสียงออกจาการซื้อเสียง เพราะในวงการการเมืองการที่ผู้ใดผู้หนึ่งจะมีตัวตนหรือ
ได้รับการยอมรับจากผู้อื่นจำเป็นต้องมีการลงทุนทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการลงแรง ลงเวลา หรือลงเงินร่วม
บริจาคให้ความช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆของชุมชน ซึ่งในแง่นี้สามารถมองได้ว่าเป็นการหาคะแนนเสียงและสร้าง
คะแนนนิยม แต่ไม่ใช่การซื้อเสียงเป็นเพียงแต่การสร้างตัวตนทางการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่กิจกรรมเหล่านี้จะ
ดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศวันเลือกตั้ง ดังนั้นจึงไม่เข้าข่ายการซื้อเสียง
แน่นอนว่ากระบวนการเช่นนี้ไม่ได้รับการอนุญาตให้กระทำในห้วงเวลาที่มีการเลือกตั้งเพราะเป็นสิ่งที่ถือ
ว่าผิดกฎหมาย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงควรแยกระหว่างการหาเสียงกับการซื้อเสียงออกจากกัน และในความเป็นจริงการ
หาเสียงในระยะเวลาอันสั้นในห้วงเวลาของการเลือกตั้งก็ไม่เพียงพอในการสร้างตัวตนและผลงานทางการเมืองได้
ผลการเลือกตั้งส่วนใหญ่มักเป็นผลพวงมาจากการหาคะเสียงและการลงทุนทางการเมืองมาเป็นระยะเวลาที่
ยาวนาน ดังนั้น จึงไม่ควรรังเกียจการหาเสียงของผู้สมัคร หรือมองว่าปฏิบัติการต่างๆที่ผู้สมัครทำนั้นเป็นไปเพราะ
หวังผลในการได้รับเลือกเป็นผู้แทน แต่ควรมองว่าเป็นความตั้งใจความสมัครใจของผู้สมัครที่จะแข่งขันกันทำความ
ดีในการบริการประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องปกติทางการเมือง และหากผู้นั้นทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องจริงใจ
จริงจังมาเป็นระยะเวลานานสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นเครื่องพิสูจน์ความตั้งใจและสุดท้ายจะผันมาเป็นคะแนนเสียงแก่
ผู้สมัครได้ในที่สุด ดังนั้น สิ่งที่ควรรังเกียจจึงไม่ใช่ ‘การหาเสียง’ แต่เป็นการ ‘ซื้อเสียง’ ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ผิดกติกา
ในการเลือกตั้ง ที่ไม่ควรสนับสนุนอย่างที่สุด
4. จงอย่ากลัวความเปลี่ยนแปลง
ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายไม่พึงปรารถนาเพราะมักมีความเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงกระทบ
ต่อความมั่นคงและอาจนำไปสู่สิ่งที่เลวร้ายลงกว่าเดิม ซึ่งแท้จริงแล้วความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมชาติ และโดย
ธรรมชาติของการเลือกตั้งคือโอกาสสำคัญที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้สร้างความเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น
ผ่านการทบทวนผลการทำงานของผู้แทนที่ผ่านมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มความ
เปลี่ยนแปลงในอนาคต การก้าวข้ามความคุ้นชินด้วยเหตุผลของความเป็นญาติพี่น้อง คนเคยรัก พรรคเคยชอบ มา
สู่การพิจารณาบนฐานของข้อมูล ผลงานที่ผ่านมา และความสามารถของผู้สมัครอย่างแท้จริง จึงเป็นสิ่งที่สอดคล้อง
กับวัฒนธรรมประชาธิปไตยมากกว่า
141