Page 151 - b29420_Fulltext
P. 151

แกนนำมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงกับการ

               พัฒนาประชาธิปไตยและความจำเป็นที่ต้องส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่จำนวนมาก

               สิ่งเหล่านี้สะท้อนออกมาให้เห็นจากกิจกรรมในพื้นที่ที่ยังมีลักษณะที่แกนนำและจิตอาสาเป็นผู้นำเป็นหลักในการ

               รณรงค์ การจัดเวทีเสวนายังพบว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ยังมีลักษณะของการเป็นผู้รับฟังมากกว่าเป็นผู้
               เสนอแนะ ส่งผลให้กระบวนการรณรงค์ส่วนใหญ่เกิดจากแกนนำซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดพูดเน้นย้ำเป็นหลัก

               ในแง่นี้การเสริมความรู้ความเข้าใจแก่กลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มมากขึ้นโดยเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างการเลือกตั้ง

               สมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงกับการพัฒนาชุมชนและพัฒนาประชาธิปไตย โดยเน้นไปที่บทบาทของผู้มีสิทธิ

               เลือกตั้งให้มากขึ้นอาจมีส่วนช่วยสร้างความเข้าใจที่ถ่องแท้ต่อโครงการได้มากกว่าการเลือกนำเสนอเน้นย้ำเฉพาะ

               เนื้อหาสำคัญเป็นหลักกระทั่งทำให้ภาพรวมความสำคัญของบทบาทผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีการนำเสนอน้อยเกินไป


                       เรื่องที่สอง การรู้บริบท (context) เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการดำเนินโครงการ ดังผล
               การศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่ามีความแตกต่างกันระหว่างการดำเนินโครงการของแกนนำที่รู้บริบทของพื้นที่เป็นอย่างดีกับ

               แกนนำที่เป็นคนนอกพื้นที่ ข้อหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยก็คือแกนนำที่รู้บริบทของพื้นที่รู้ว่าใครเป็นที่รู้จักได้รับการ

               ยอมรับ รู้ว่าใครเป็นผู้สมัคร และรู้ว่าใครเป็นเครือข่ายกันบ้างในชุมชน สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญต่อระดับความสำเร็จ

               ในการดำเนินโครงการเนื่องจากจะช่วยให้แกนนำสามารถเลือกเทคนิคการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆได้อย่าง

               สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ รู้บุคคลที่จะเชื่อมต่อและเข้าหาได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ข้อที่พึงระมัดระวัง
               ประการหนึ่งสำหรับแกนนำพลเมืองซึ่งเป็นคนในพื้นที่และทราบบริบทพื้นที่เป็นอย่างดีก็คือความยืดหยุ่นจาก

               หลักการ แม้ว่าความยืดหยุ่นจะมีความจำเป็นต่อการสร้างการยอมรับของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่อการเข้าร่วม

               โครงการได้ง่าย ทว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่พึงระมัดระวังเพราะหากยืดหยุ่นมากเกินไปความเข้มงวดของโครงการอาจหมด

               ไปและสุดท้ายเมื่อทุกฝ่ายมองไม่เห็นถึงความจริงจังเข้มงวดของการดำเนินโครงการก็อาจส่งผลต่อระดับ

               ความสำเร็จของการดำเนินโครงการได้


                       เรื่องที่สาม การรู้วัฒนธรรม (culture) ซึ่งวัฒนธรรมในที่นี้ต่างไปจากบริบท (context) ที่กล่าวไปใน
               ข้อสังเกตที่ 2 เพราะวัฒนธรรมในที่นี้คือพฤติปฏิบัติหรือความเคยชินที่สืบทอดกันมาจนกลายเป็นนิสัย ซึ่งผล

               การศึกษาชี้ให้เห็นแล้วว่ามีวัฒนธรรมบางประการที่ปรากฎอยู่ในชุมชนแถบนี้ที่ไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย


                       วัฒนธรรมแรก คือ การยกย่องและยอมรับผู้มีฐานะ สิ่งนี้ส่งผลให้ ‘เงิน’ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการหา

               เสียงของผู้ที่ต้องการลงเล่นการเมืองเพื่อแสดงออกให้เห็นถึงการเป็นผู้มีฐานะและพึ่งพาได้










                                                                                                          137
   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156