Page 108 - b29420_Fulltext
P. 108

แผนภาพที่ 1 เป็นสรุปความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับพื้นที่เป้าหมายในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ดำเนินโครงการ

               เลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ระหว่างปี 2560-2564 เปรียบเทียบกับความคาดหวังที่ต้องการให้

               เกิดขึ้นภายหลังดำเนินโครงการในเรื่องความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักและพฤติกรรมของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

               จากแผนภาพจะเห็นได้ว่า ความเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะได้รับภายหลังการดำเนินโครงการในแต่ละเรื่องนั้นยังไปไม่
               ถึง กล่าวคือ ในเรื่องของความรู้ความเข้าใจต่อการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ที่คาดหวังว่าผู้มีสิทธิ

               เลือกตั้งจะเข้าใจว่าการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงเป็นเรื่องของ การหาเสียงสร้างสรรค์ การไม่สร้าง

               ความเท็จ ไม่สร้างความขัดแย้ง ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ยึดหลักความรู้ความสามารถ ประโยชน์สุขส่วนรวมเป็นหลักใน

               การเลือกตั้งและยอมรับผลแพ้ชนะภายหลังการเลือกตั้ง ทว่าผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

               กลับยังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง โดยมีจำนวนมากที่ยังเข้าใจว่าการเลือกตั้งสมานฉันท์คือการไม่แข่งขัน เป็นการยก
               ให้กัน เป็นการเลือกญาติพี่น้องของตน มีจำนวนน้อยที่มองว่าเป็นเรื่องของการเลือกตั้งที่ใช้ความดี และเน้นการหา

               เสียงสร้างสรรค์ ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งเรื่องนี้สัมพันธ์กับปัจจัยด้านการถ่ายทอดความรู้ที่ไม่ครบถ้วนรอบด้าน

               ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น


                       ในส่วนของความตระหนักรู้ โดยกระบวนการคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภายหลังเข้าร่วมโครงการแล้วผู้มีสิทธิ

               เลือกตั้ง จะมีความตระหนักว่าคะแนนเสียงของตนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่พื้นที่ได้ ตระหนักว่าตนมี

               ศักยภาพในการมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง และตระหนักว่าตนมีทางเลือกในการเลือกตั้ง ทว่าผลการศึกษา
               พบว่ากลุ่มตัวอย่างผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากยังไม่ตระหนักว่าตนมีทางเลือกในการเลือกตั้งมากนัก และยังมองว่า

               ญาติและเงินยังมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกผู้แทนอย่างมาก มีเพียงพื้นที่ที่กลุ่มตัวอย่างมีความรู้ผ่านเกณฑ์ระดับ

               มากเท่านั้น ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะเกิดความตระหนักในศักยภาพของตนเองในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและ

               เล็งเห็นคุณค่าในคะแนนเสียงของตนมากขึ้นและรับรู้ถึงอิทธิพลของญาติและเงินน้อยลง


                       ความรู้และความตระหนักถึงศักยภาพของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เกิดขึ้นอย่างไม่เต็มที่ข้างต้น ได้ส่งผลต่อ

               พฤติกรรมของผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่ายในการเลือกตั้งท้องที่ให้มีการแสดงออกในการขับเคลื่อนการเลือกตั้งสมานฉันท์
               และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงอย่างจำกัดตามไปด้วย ดังนี้


                       ในส่วนของแกนนำและผู้นำชุมชนพบว่าแกนนำและผู้นำชุมชนส่วนใหญ่ เน้นการขับเคลื่อนโครงการ

               เลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงโดยมุ่งไปที่การ ‘ไม่แข่งขัน’ เป็นหลัก ยังไม่เน้นบทบาทการมีส่วนร่วม

               ของผู้สมัครและผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากนัก ด้านผู้นำชุมชนก็ยังมีบทบาทตามแกนนำอยู่อย่างมาก ไม่ได้มีลักษณะของ

               การร่วมมือกันขับเคลื่อนแต่เป็นการทำตามที่แกนนำระดับโครงการแนะนำและเข้าร่วมกิจกรรมที่แกนนำจัดขึ้น







                                                                                                           94
   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112   113