Page 84 - b29256_Fulltext
P. 84
3.5 นโยบายกระทรวงต่างประเทศที่มีผลต่อนโยบายการแพทย์และการสาธารณสุขไทย
3.5.1 ความร่วมมือในการควบคุมป้องกันโรคติดต่อระหว่างประเทศ
บทบาทของการต่างประเทศไทยที่สัมพันธ์ใกล้ชิดกับการแพทย์และการป้องกันโรคที่ในยุคอาณานิคมใน
คริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่รัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านของสยามในอุษาคเนย์เป็นรัฐบาลเจ้าอาณานิคมชาติตะวันตกที่มี
การแพทย์ก้าวหน้าอย่างอังกฤษในอินเดีย พม่า มลายู ฝรั่งเศสในอินโดจีน สหรัฐอเมริกาในฟิลิปปินส์ และฮอลันดาใน
หมู่เกาะอินโดนิเซียต้องร่วมมือกันศึกษาหาความรู้และควบคุมป้องกันโรคเมืองร้อนหลายชนิด การกักกันโรคที่ระบาดมา
ทางเรือที่ใช้เดินทางค้าขายอย่างแพร่หลายทั่วถึงจนก่อให้เกิดโรคระบาดติดต่อถึงกันในดินแดนต่างๆ จึงต้องมีการแจ้ง
เพื่อระวังตรวจตราและกักกันเรือที่เดินทางมาจากแหล่งที่มีโรคระบาด ซึ่งการดำเนินการปรากฏให้เห็นชัดเจนมาก
ในช่วงรัชกาลที่ 7 ที่อยู่ระหว่างสองมหาสงคราม
ดังจะเห็นภาพของกิจการสาธารณสุขที่คล้ายกันในโลกอาณานิคมยุคนั้นได้ จากกรณีนายแพทย์ย่งฮั้ว (ใน
เอกสารสลับกับย่งฮื้อ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นนายแพทย์ยงค์ ชุติมา ผู้บุกเบิกด้านโภชนาการใหม่ในประเทศไทย) ได้
เดินทางไปศึกษาด้านการสาธารณสุขที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นการออกเงินทุนส่วนตัวใน
การเดินทางไปทำการศึกษาในปี 2475 จึงแล้วเสร็จสำเร็จการศึกษาในเดือนกันยายนปี 2476 ก่อนจะสำเร็จการศึกษา
กลับสู่สยาม ศาสตราจารย์วิลสัน จี. สมิลลี่ อาจารย์ของนายแพทย์ย่งฮั้วจึงได้แนะนำให้ทางรัฐบาลไทยส่งนายแพทย์ย่ง
ฮั้วไปศึกษาดูงานการสาธารณสุขที่ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และ ดัตช์ อีสต์ อินดีส ซึ่งเป็นเมืองทางผ่านก่อนกลับถึงสยาม
เนื่องจาก ศาสตราจารย์สมิลลี่เล็งเห็นว่าปัญหาการสาธารณสุขของประเทศในข้างต้นเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับ
209
สยาม แสดงให้เห็นว่าการปรับปรุงกิจการแพทย์และสาธารณสุขของสยามนั้นมีแรงกดดันและการเปรียบเทียบกับ
อาณานิคมรอบข้างที่พัฒนาการแพทย์ให้ก้าวหน้าจากเมืองแม่อย่างเด่นชัดแล้วในช่วงรัชกาลที่ 7
ในช่วงทศวรรษ 2470 ยุคอาณานิคมหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดในเมืองร้อน
เป็นความรู้สำคัญที่แพร่กระจายในดินแดนแถบนี้และมีประโยชน์ต่อการปกครองดินแดนเหล่านี้ด้วย ดังนั้นการเผยแพร่
ของวารสารการแพทย์เอกสารหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์จึงเป็นสิ่งที่ต้องการสำหรับรัฐบาลที่จะต้องอาศัยความรู้ในการ
จัดการสุขภาพประชาชนให้เหมือนกันทั้งในอาณานิคม หรือแม้แต่รัฐสยามที่ไม่เป็นอาณานิคมโดยตรงก็ตาม ดังปรากฏ
การส่งหนังสือคำถามคำตอบเกี่ยวแก่การสาธารณสุขในแหลมมลายูจากกรมสาธารณสุขเมืองปีนังเขียนเป็น
ภาษาอังกฤษ จำนวน 6 หน้า มาจากกงสุลสยามเมืองปีนัง “ข้าพระพุทธเจ้าคิดด้วยเกล้าฯ ว่าบางทีอาจจะเป็นประโยชน์
แก่ทางกรมสาธารณสุขกรุงเทพ ฯ บ้าง” จึงแจ้งเรื่องมายังกระทรวงต่างประเทศให้ขอนำส่งไปยังกระทรวงมหาดไทย
210
209 สจช., กต. 44.9/212 (กล่อง 13). หมอย่งฮื้อ ไปศึกษาและดูการสาธารณสุขในประเทศอเมริกา, ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์ และ
DUTCH EAST INDIES โดยเงินส่วนตัว (พ.ศ. 2476)
210 สจช., กต. 49/14. (กล่อง2) ส่งหนังสือสาธารณสุขในมลายูจากกรมสาธารณสุขปีนัง (พ.ศ. 2470).
83