Page 15 - b29256_Fulltext
P. 15

ตะวันออกเฉียงใต้อย่างมาลาเรีย ที่เปลี่ยนแปลงจากภูมิปัญญาการอธิบายโรคจากยุคเก่าของความรู้แบบการแพทย์แผน

            ไทยมาสู่การอธิบายใหม่ตามแบบที่ได้รับความรู้จากตะวันตกในทฤษฎีเชื้อโรค อันนำมาสู่นโยบายของรัฐไทยในการ
            ควบคุมป้องกันและปราบปรามโรคมาลาเรียและยุงที่เป็นพาหะในยุคต่อมา เพื่อให้สามารถขยายการตั้งถิ่นฐานและทำ

            การเกษตรในเขตป่าดงมาตั้งแต่กลางพุทธศตวรรษที่ 25 เป็นต้นมา และยังพบว่าการปราบปรามและควบคุมมาลาเรีย

                                                                                             15
            อย่างจริงจังเกิดขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 7 จากความช่วยเหลือด้านความรู้และเทคโนโลยีจากต่างประเทศ  ดังนั้นจึงน่าสนใจ
            จะวิเคราะห์ลงลึกว่าสมัยรัชกาลที่ 7 การดำเนินนโยบายปราบมาลาเรียได้ส่งผลต่อสังคมและวัฒนธรรมสมัยนั้นอย่างไร

            และสัมพันธ์กับการสาธารณสุขด้านอื่นอย่างไร

                   กล่าวโดยสรุปแล้วการศึกษาประวัติศาสตร์ในรูปแบบการกล่าวถึงพัฒนาการในระยะยาวของการแพทย์และ

            การสาธารณสุขในช่วงเวลาต่างๆ ที่ไม่ใช่การใช้เวลาทางการเมืองหรือสมัยการปกครองนั้นมีความสำคัญที่จะชี้ให้เห็นถึง

            จุดเปลี่ยนในตัวการแพทย์และสาธารณสุขที่เกิดขึ้นในสังคมไทยได้ชัดเจน แต่การวิเคราะห์ประวัติศาสตร์ในแนว

            วิเคราะห์ที่สัมพันธ์กับการเมืองและบทบาทของผู้ปกครองในการดำเนินนโยบายด้านสาธารณสุขยังไม่มีการวิเคราะห์
            สังเคราะห์กันมากนัก มองหาปัจจัยอื่นมาช่วยในการอธิบายให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรอบด้านอย่างวิพากษ์วิจารณ์

            ไปพร้อมกันกับบทบาทของผู้นำทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมที่เป็นผลจากนโยบายการแพทย์

            และสาธารณสุขในช่วงเวลาทางการเมืองในรัชกาลที่ 7 จึงเป็นประเด็นที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมโดยอาศัยงานกลุ่มนี้เป็น

            แนวทางหาโครงสร้างเพื่อลงลึกในรายละเอียดต่อไป


                   งานศึกษาประวัติศาสตร์การแพทย์และการสาธารณสุขเจาะจงเฉพาะช่วงยุคสมัย


                   งานชิ้นสำคัญในกลุ่มนี้ที่ละเลยไม่ได้คือวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของ วริยา ศิวศริยานนท์ เรื่อง The Transfer
            of Medical Technology from the First World to the Third World : A Case study of the Rockefeller

            Foundation’s Role in a Thai Medical School (1923-1935) (2527) ซึ่งช่วงเวลาที่ศึกษาคาบเกี่ยวกันกับ

            โครงการวิจัยนี้ สามารถสรุปว่าการบริหารจัดการการสาธารณสุขของรัฐไทยนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากอำนาจภายในอาณาเขต

            ของรัฐไทยอย่างเดียว เนื่องจากปรากฏว่าการเมืองระหว่างประเทศก็มีส่วนอย่างสำคัญในการกำหนดทิศทางการ

            สาธารณสุขภายในของไทย และพัฒนาการทางเศรษฐกิจของทุนนิยมโลกก็มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อนโยบายการ
            ดำเนินการบริหารจัดการสาธารณสุขของไทยที่ยอมรับเอาการแพทย์สมัยใหม่ ที่มีรูปแบบของการแพทย์แบบทุนนิยม

            เสรีนิยมที่เน้นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ซึ่งต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นหลัก ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้

            ส่งเสริมการแพทย์แผนโบราณที่มีอยู่เดิมในสังคมให้พัฒนาควบคู่กับการแพทย์แผนใหม่จึงทำให้การแพทย์แผนโบราณใน

            สังคมไทยอ่อนแอลงอย่างมาก








                   15  ชาติชาย มุกสง, รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์เรื่อง ประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของโรคมาเลเรียในประเทศไทย (สถาบันวิจัย
            จัดการความรู้และมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, 2560).

                                                            14
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20