Page 19 - b29256_Fulltext
P. 19

เชื้อพระวงศ์ที่มีความสามารถ พระองค์ในฐานะผู้นำทรงทำงานหนักในการบริหารราชการแผ่นดินจนเป็นที่ประจักษ์จาก

            การทรงเอกสารราชการและทรงงานจนพระพลานามัยเสื่อมทรุดลงในช่วงปลายรัชกาล


            2.1 พัฒนาการด้านการแพทย์และการสาธารณสุขในสมัยรัชกาลที่ 7

                      ด้านการแพทย์และการสาธารณสุขมีบริบทสำคัญที่สืบเนื่องหลังจากการค้นพบวิธีการป้องกันและรักษาโรค
            ระบาดที่ก้าวหน้าหลังการค้นพบทฤษฎีเชื้อโรค การค้นพบยารักษาโรคใหม่ๆ  และความเจริญรุดหน้าของการแพทย์เชิง

            ป้องกันและการสาธารณสุข ด้วยการใช้วัคซีนและการส่งเสริมสุขภาพจากการค้นพบวิตามิน การผลิตสินค้าอนามัยส่วน
            บุคคลที่เติบโตในตลาดอย่างมากหลังสงคราม ส่งผลให้การดำเนินนโยบายการแพทย์และการสาธารณสุขในสังคมไทย

            ต้องดำเนินไปในทางขยายสถานพยาบาลไปยังหัวเมืองเป็นฐานในการรักษาและป้องกันโรค การจัดหาวัคซีนและ

            เวชภัณฑ์เพื่อดูแลรักษาและป้องกันโรคให้กับพลเมืองที่ต้องทำไปในสถานการณ์ที่ขาดแคลนงบประมาณและการบริหาร
            ราชการที่ประสิทธิภาพกำลังประสบปัญหาในการควบคุมสั่งการจากส่วนกลางไปยังส่วนภูมิภาคที่เพิ่งรวมอำนาจมาได้

            ไม่นานนัก
                      ขณะเดียวกันสภาพการณ์ของเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในโลกสมัยอาณานิคมตั้งแต่ศตวรรษที่ 19

            เป็นต้นมา ถูกผนวกเข้าเป็นอาณาบริวารของระบบเศรษฐกิจทุนนิยมโลกสมัยใหม่หลังปฏิวัติอุตสาหกรรมและการแบ่ง

            งานกันทำระดับโลก หลังจากสยามผูกพันตนเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบทุนนิยมโลกอย่างเป็นทางการด้วยการเซ็น
            สนธิสัญญาเบาว์ริ่งในปี 2398 ทำให้สยามต้องปรับตัวทางเศรษฐกิจและการเมืองเข้าเป็นทุนบริวารและการสร้างรัฐรวม

            ศูนย์แบบรัฐชาติสมัยใหม่อันเป็นกระบวนการเดียวกันกับรัฐโบราณในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถูกสถาปนาขึ้นในสมัย

            อาณานิคมโดยเจ้าอาณานิคม การเกิดระบบราชการเพื่อสร้างการปกครองรวมศูนย์ การศึกษาสมัยใหม่ การแพทย์
            สมัยใหม่ กลายเป็นสถาบันหลักของรัฐทั่วทั้งโลก กระบวนการสร้างอาณานิคมภายในด้วยการสร้างระบบการปกครอง

            รวมศูนย์โดยการสถาปนาระบบข้าราชการแบบใหม่ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านจากการศึกษาสมัยใหม่ ทำให้รัฐสยาม
            กลายเป็นรัฐสมัยใหม่ขึ้นมาบนความเปลี่ยนผ่านจากรัฐศักดินาแบบอธิราชย์ที่เน้นความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์และความ

            ภักดีแบบโบราณ และการขึ้นมามีอำนาจของชนชั้นใหม่ผ่านระบบการศึกษามาเป็นข้าราชการนั้นเองก็ได้ทำให้ระบอบ

            สมบูรณาญาสิทธิราชย์เสื่อมลงจากภายในระบบเองมาเป็นรัฐประชาชาติที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครอง
            ผ่านรัฐสภาและและรัฐธรรมนูญหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475
                                                                       20
                      ด้วยบริบททางการเมืองและเศรษฐกิจของสยามในรัชกาลที่ 7 ที่เผชิญกับความผันผวนและวิกฤตทั้ง
            ภายนอกภายในรุมเร้าดังกล่าว การดำเนินนโยบายด้านการแพทย์และการสาธารณสุขจึงมีทั้งงานเร่งด่วนที่ต่อ

            เนื่องมาจากรัชกาลก่อน งานที่เกิดการริเริ่มการดำเนินนโยบายด้านการแพทย์และการสาธารณสุขหลายประการที่เป็น

            พลวัตกันกับการเมืองภายในและภายนอกประเทศ พร้อมกันไปกับการต่อสู้ดำเนินนโยบายท่ามกลางภาวะวิกฤตทาง
            เศรษฐกิจและการคลังที่ขาดแคลนของรัฐสยามเอง






                   20  โปรดดู ไชยันต์ รัชชกูล, อาณานิคมสมบูรณาญาสิทธิราชย์ : การก่อรูปรัฐไทยสมัยใหม่จากศักดินานิยมสู่ทุนนิยมรอบนอก
            (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อ่าน, 2560).

                                                            18
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24