Page 62 - 23464_Full text
P. 62
61
หากดูจากกระบวนการถกเถียงทั้งหมด พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีจุดยืนชัดเจนและคงเส้นคงวาที่สุด
ในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหมด คือ สนับสนุนระบบเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบและใช้วิธีค านวณ คะแนน
แบบปี 2540 ซึ่งก็คือ ระบบ (MMM- mixed-member majoritarian system)
พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยเป็นพรรคการเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศมาอย่างยาวนาน
ระหว่างการเลือกตั้งปี 2544 ถึง 2554 แต่ท าผลงานได้ถดถอยอย่างยิ่งในการเลือกตั้งปี 2562
เป็นผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านการรับรองของสภาให้เปลี่ยนกลับไปใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
ซึ่งเป็นจุดยืนเดียวกับพรรคเพื่อไทย แต่ในขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้งประกอบ
รัฐธรรมนูญ กลับเกิดความขัดแย้งในพรรคเป็น 2 แนวทาง ระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนสูตรหาร 100 กับ
สูตรหาร 500 โดยที่กลุ่มที่สนับสนุนสูตรหาร 500 มีจ านวนมากกว่า
พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคแกนน าจัดตั้งรัฐบาลและชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่สองใน
การเลือกตั้งปี 2562 สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปใช้ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบแบบ
รัฐธรรมนูญปี 2540 อันเป็นจุดยืนที่สอดคล้องกับพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในเวลา
ต่อมาเมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้งประกอบรัฐธรรมนูญ เกิดความขัดแย้ง
ในพรรคเช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนสูตรหาร 100 กับสูตรหาร 500 โดย
กลุ่มที่สนับสนุนสูตรหาร 100 มีจ านวนมากกว่า และกลุ่มใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐนี้ได้ใช้
ยุทธศาสตร์แบบเดียวกับพรรคเพื่อไทยคือ นัดหมายไม่ให้ ส.ส. ในกลุ่มเข้าร่วมการประชุมสภาใน
วาระ 3 เพื่อท าให้องค์ประชุมสภาไม่ครบและท าให้สูตรหาร 500 ต้องตกไป
พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 5 ในการเลือกตั้งปี 2562 เป็นพรรคที่สงวนท่าที
ในช่วงที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีข้อเสนอให้เปลี่ยนกลับไปใช้ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบแบบ
รัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งสนับสนุนโดยพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ โดยภูมิใจไทย
มีมติพรรคงดออกเสียง ต่อมาเมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารราร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า
ด้วยการเลือกตั้ง ภูมิใจไทยสนับสนุนสูตรหาร 500 ที่เสนอโดยกลุ่ม ส.ส. พรรคเล็ก
พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นก่อนการเลือกตั้งปี 2562 เพียงไม่นานและ
เติบโตเป็นพรรคขนาดใหญ่อันดับ 3 ของระบบการเมืองไทย สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
กลับไปใช้ระบบบผสมที่มีบัตร 2 ใบแต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีค านวณคะแนนตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่
ยึดตามรัฐธรรมนูญปี 2540 โดยเสนอความเห็นว่าระบบบัตร 2 ใบที่ค านวณคะแนนแบบระบบ
เยอรมนี (MMP) เป็นระบบที่เหมาะสมกว่า จึงประกาศงดออกเสียงในวาระ 3 ส่วนในขั้นตอนการ
พิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ พรรคก้าวไกลสนับสนุนสูตรหาร 100 แต่เสนอรายละเอียด
เพิ่มเติมให้ก าหนดเกณฑ์ขั้นต่ าในการค านวณที่นั่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลไม่สนับสนุนสูตร
หาร 500 แบบที่กรรมาธิการเสียงข้างน้อยเสนอเพราะขัดกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านสภาไปแล้ว
พรรคการเมืองขนาดเล็กส่วนใหญ่ (น าโดยเสรีรวมไทยและพลังธรรมใหม่) มีจุดยืนคัดค้าน
การแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปใช้ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบแบบรัฐธรรมนูญปี 2540 และสนับสนุนสูตร
หาร 500 ในขั้นตอนการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ
ส าหรับวุฒิสมาชิก พบว่ามิได้มีจุดยืนที่เป็นเอกภาพในประเด็นเรื่องระบบเลือกตั้ง มีทั้งกลุ่มที่
สนับสนุนและคัดค้านกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนระบบเลือกตั้งให้กลับไปใช้บัตร 2 ใบ และ
ในช่วงที่มีการถกเพียงเรื่องสูตรหาร 100 และ 500 ในขั้นตอนการพิจารณากฎหมายประกอบ