Page 95 - 22385_Fulltext
P. 95

การศึกษาการบังคับใช้                                                                การศึกษาการบังคับใช้
                     พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย      พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย



                  คำวินิจฉัยของคณะกรรมการ วลพ. มีสถานะเพียง “กึ่งสภาพบังคับ”                             อนึ่ง โดยกลไกของกฎหมายและลักษณะการทำงานแบบราชการ
                  เท่านั้น และในบางกรณีนอกจากไม่ปฏิบัติตามแล้วหน่วยงานผู้ถูกสั่งการนั้น                  ที่ทำให้ต้องมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตำแหน่งและบุคลากร ก่อให้เกิด

                  ยังยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ                            ปัญหาในแง่ของความต่อเนื่องในการทำงาน และไม่สามารถสร้าง
                  วลพ. ด้วย ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันคณะกรรมการ วลพ. ถูกฟ้องคดีต่อ                           ความเชี่ยวชาญให้กับฝ่ายผู้บังคับใช้กฎหมายได้ ทั้งนี้ ทั้งในระดับของ

                  ศาลปกครองแล้วทั้งสิ้น 4 คดี จากคำวินิจฉัย 4 คำร้อง โดยศาลปกครอง                        คณะกรรมการ และพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำ ซึ่งไม่น่าจะเป็นผลดีนักต่อ
                                              46
                  ยังมิได้มีคำวินิจฉัยใด ๆ ออกมา  ซึ่งผู้ศึกษาเห็นว่าคำวินิจฉัยของ                       การบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างเฉพาะทางและมีประเด็น
                  ศาลปกครองในคดีเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งต่อแนวทางการทำงาน                       ละเอียดอ่อนที่เรียกร้องความรู้ความเชี่ยวชาญไม่เฉพาะแต่ด้านกฎหมาย
                  ของคณะกรรมการ วลพ. ในอนาคตเอง และต่อความสามารถในการบรรลุ                               เท่านั้น แต่หมายถึงหลักความเสมอภาค เท่าเทียม และประเด็นในเรื่องเพศด้วย

                  ถึงซึ่งเจตนารมรณ์ของกฎหมายฉบับนี้ด้วย
                                                                                                           8.3  กองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ
                          8.2.5 ภาระงานของคณะกรรมการ วลพ. หนักเกินไป ทั้งในแง่                                   จากประสบการณ์การทำงานของผู้ให้สัมภาษณ์แต่ละกลุ่ม
                  ของเนื้อหาการทำงาน (พิจารณาคำร้อง แสวงหาข้อเท็จจริง สืบพยาน                            ผู้ศึกษาพบว่ายังมีมุมมองต่อการบริหารจัดการการใช้เงินกองทุนส่งเสริม

                  ทำคำวินิจฉัย และรายงานผล) และในแง่ของกรอบเวลาในการทำงาน                                ความเท่าเทียมระหว่างเพศ รวมทั้งสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน
                  จึงไม่สมดุลกับค่าตอบแทนและเวลาที่คณะกรรมการซึ่งส่วนใหญ่เป็น                            ซึ่งอาจสรุปข้อสังเกตจากกลุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ ได้ดังนี้

                  ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีงานประจำของตนเองอยู่แล้วต้องทุ่มเทให้ ประเด็นนี้
                  ถูกสะท้อนจากนักวิชาการผู้ให้สัมภาษณ์ซึ่งแม้ไม่ได้เป็นคณะกรรมการ                                8.3.1 แม้โดยผลของ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ทำให้รัฐออก
                  วลพ. แต่เห็นว่าเป็นอุปสรรคและปัญหาประการหนึ่งด้วย เนื่องจาก                            อนุบัญญัติหลายฉบับเพื่อกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการร้องขอค่าชดเชย
                                                                                                                                                 47
                  หากตัวกลไกการทำงานเอง (อาศัยการนัดหมายและการประชุมเป็นครั้ง ๆ ไป)                      เยียวยาความเสียหายที่เกิดจากการถูกเลือกปฏิบัติ  ซึ่งมีเนื้อหาค่อนข้าง
                  และค่าตอบแทน (เบี้ยประชุม) ไม่เอื้อต่อการทำงาน ย่อมกระทบกับ
                                                                                                                  ประกาศกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เรื่อง กำหนดแบบคำขอรับ
                                                                                                               47
                  ประสิทธิภาพและความรวดเร็วในพิจารณาและวินิจฉัยคำร้อง รวมทั้งส่งผล                         การชดเชยและเยียวยา พ.ศ. 2559, ประกาศกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เรื่อง
                  ต่อจำนวนบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถที่พร้อมและอยากเข้ามาทำงาน                        หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำขอรับการชดเชยและเยียวยาแทนผู้เสียหาย พ.ศ. 2559,
                                                                                                         ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ
                         46   ดู สรุปคำร้องที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคณะกรรมการ วลพ. ต่อศาลปกครอง            และจำนวนเงินในการชดเชยและเยียวยาผู้เสียหาย พ.ศ. 2559 และระเบียบ
                  ในรายงานศึกษาฉบับนี้ บทที่ 4 หัวข้อที่ 2 “การฟ้องคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง         คณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ว่าด้วยการพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงิน
                  การร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ                 ชดเชยและการเยียวยาแก่ผู้เสียหาย เนื่องจากการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
                  เกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้”                                                                ระหว่างเพศ พ.ศ. 2559



             80    สถาบันพระปกเกล้า                                                                                                                  สถาบันพระปกเกล้า   81
   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100