Page 90 - 22385_Fulltext
P. 90

การศึกษาการบังคับใช้                     การศึกษาการบังคับใช้
 พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย   พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย



 อำนาจคณะกรรมการ วลพ. สามารถกำหนดมาตรการชั่วคราวก่อน    ละเมิดสิทธิในลักษณะอื่นด้วย ผู้ร้องยื่นเรื่องมายังคณะกรรมการ วลพ.
 มีคำวินิจฉัยเพื่อคุ้มครองหรือบรรเทาทุกข์แก่บุคคลผู้ถูกหรืออาจถูก    แต่ในระหว่างการพิจารณาผู้ร้องนำเรื่องไปยื่นฟ้องอีก คณะกรรมการ

 เลือกปฏิบัติเท่าที่จำเป็นและสมควรแก่กรณีได้ แต่ที่ผ่านมา ด้วยเงื่อนไข  วลพ. จึงยุติเรื่องทันทีแม้ว่าการพิจารณานั้นจะเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ใน
 หลักเกณฑ์และการใช้การตีความ คณะกรรมการ วลพ. ยังไม่เคยใช้  ขั้นตอนของการทำคำวินิจฉัยก็ตาม

 มาตรการนี้เพื่อคุ้มครองสถานการณ์ความกดดันใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นแก่    ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนหนึ่งเห็นว่าประเด็นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหา
 สภาพจิตใจและร่างกายของผู้ร้องเรียนเลย
                     สำคัญ เนื่องจากในความเป็นจริงแล้ว บางกรณีผู้เสียหายถูกกระทำ
   8.2.2 ด้วยเหตุที่มาตรา 18 วรรคหนึ่ง กำหนดให้เฉพาะบุคคล  ในหลาย ๆ ลักษณะ กล่าวคือ ไม่เพียงแต่ถูกเลือกปฏิบัติที่ต้องการให้

 ที่เห็นว่าตนได้รับหรือจะได้รับความเสียหายจากการกระทำในลักษณะ    คณะกรรมการ วลพ. วินิจฉัยยืนยันสิทธิและสั่งให้องค์กรหรือหน่วยงาน
 ของการเลือกปฏิบัติซึ่ง “ไม่ได้ใช้สิทธิฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาล หรือที่    ระงับการเลือกปฏิบัติเท่านั้น ในเหตุการณ์เดียวกัน หรือเกี่ยวข้องสืบเนื่องกัน
 ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเด็ดขาดแล้ว” เท่านั้น สามารถใช้สิทธิร้องเรียน  ผู้ร้องอาจถูกกระทำผ่านคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในลักษณะอื่นด้วย
 มายังคณะกรรมการ วลพ. ได้ ซึ่งต่อมาระเบียบกระทรวงการพัฒนา  อย่างการถูกสั่งย้าย ให้พักงาน หรือไล่ออกจากราชการ ซึ่งจำเป็นต้อง

 สังคมฯ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการในการยื่นคำร้อง การพิจารณา     ร้องขอความเป็นธรรมจากศาลที่มีอำนาจ เพราะลำพังแต่เพียงอำนาจของ
 และการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ พ.ศ. 2559   คณะกรรมการ วลพ. ย่อมไม่สามารถวินิจฉัยไปถึงประเด็นหรือการกระทำ

 ก็มีบทบัญญัติข้อ 5 และข้อ 18 (2) ที่ออกมาสอดรับกับเรื่องนี้ ประกอบกับ   ที่ไม่ชอบอื่นใด หรือบังคับให้หน่วยงานนั้นรับผู้ร้องกลับเข้าทำงานได้
 ความใน มาตรา 18 วรรคสอง พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ที่ระบุว่าไม่ตัดสิทธิ  เช่นนี้ จึงย่อมไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งที่กฎหมายจะตัดสิทธิผู้ร้องเพียงเพราะ
 ผู้ร้อง “ในอันที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดต่อศาลที่มีเขตอำนาจ”   เหตุที่ผู้ร้องต้องการความเป็นธรรมหรือแก้ไขเยียวยาในรูปแบบอื่น
 ซึ่งย่อมหมายเฉพาะการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนต่อศาลแพ่งเท่านั้น     ที่คณะกรรมการ วลพ. ไม่สามารถหยิบยื่นให้ได้

 จึงยังผลให้การใช้การตีความโดยคณะกรรมการ วลพ. ที่ผ่านมา     8.2.3 กระบวนการพิจารณาใช้เวลานาน และกระบวนการ
 หมายความรวมไปถึงกรณีที่ว่า แม้บุคคลจะใช้สิทธิร้องเรียนกับ    ทำคำวินิจฉัยมีความล่าช้า จนหลายกรณีไม่สามารถให้ความเป็นธรรม

 คณะกรรมการ วลพ. ไว้ก่อนแล้ว แต่ถ้าในระหว่างการพิจารณา บุคคล    ได้ทันกับสถานการณ์ที่ผู้ร้องประสงค์จะให้คณะกรรมการ วลพ.
 ผู้ร้องนั้นยื่นฟ้องเรื่องเดียวกันนี้ต่อศาลอื่น (เช่น ศาลปกครอง หรือ    เป็นผู้ชี้ขาด ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้ร้องบางคนถอนคำร้องออกไป
 ศาลแรงงาน) อีก คณะกรรมการ วลพ. ก็จะไม่มีอำนาจรับคำร้องไว้อีกต่อไป   เพราะไม่สามารถทนแรงกดดันจากคู่กรณีในระหว่างรอคำวินิจฉัยได้ ทั้งนี้
 และจะยุติการพิจารณานั้นทันที กรณีที่เคยเกิดขึ้นแล้ว อาทิ กรณีครูข้ามเพศ   ตามข้อ 38 ของระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ว่าด้วย หลักเกณฑ์

 ต้องการใส่ชุดข้าราชการหญิงมาทำงานแต่ถูกผู้บริหารห้ามปรามทั้งยังถูก
                     และวิธีการในการยื่นคำร้อง การพิจารณา และการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติ



     สถาบันพระปกเกล้า                                             สถาบันพระปกเกล้า   75
   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95