Page 76 - 22385_Fulltext
P. 76
การศึกษาการบังคับใช้ การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
ของตน หรือเลือกปฏิบัติกับเขาเพียงเพราะเขาไม่สามารถปฏิบัติตามความเชื่อ “กำหนดตนเอง” ในขณะที่การผลักดันกฎหมายในอีกสองมิติยังไม่ได้รับ
ของตนย่อมมิได้ การตอบสนองที่ดีนักจากภาครัฐ 42
อนึ่ง ผู้ให้สัมภาษณ์ซึ่งเป็นทั้งคนทำงานภาคประชาสังคมและ 7. สถิติการปฏิบัติตามและการบังคับการให้เป็นไปตาม
นักวิชาการที่ทำงานร่วมกับองค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งเคยเป็น กฎหมายฉบับนี้
ผู้ใช้สิทธิร้องเรียนกับคณะกรรมการ วลพ. ให้ความคิดเห็นต่อประเด็นนี้ว่า
ในประเทศที่พัฒนาแล้ว หรือประเทศที่ค่อนข้างก้าวหน้าในเรื่องสิทธิ สำหรับสถิติการปฏิบัติตามและการบังคับการให้เป็นไปตาม
ทางเพศมักมี หรือให้ความสำคัญในการผลักดันกฎหมายในมิติที่เกี่ยวกับ กฎหมายที่สำคัญตามกลไกของ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ก็คือ สถิติจำนวน
สิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างน้อย 3 ฉบับ คือ 1) กฎหมาย ข้อร้องเรียนการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมด้วยเหตุแห่งเพศที่ยื่นร้องเข้ามา
43
รับรองเพศ ที่ส่งผลให้ไม่ว่าเพศกำเนิดของบุคคลจะเป็นอย่างไร หากเพศ ยังคณะกรรมการ วลพ. ซึ่งสามารถสรุปเพื่อให้เห็นภาพรวมได้ดังนี้
ที่บุคคลนั้นเลือก และกำหนดเองแตกต่างออกไปก็จะได้รับการรับรอง นับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปี 2564 (31 พฤษภาคม 2564) มีคำร้อง
ดังนั้น คนข้ามเพศจึงสามารถเปลี่ยนคำนำหน้านามได้ เปลี่ยนอัตลักษณ์ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการ วลพ. จำนวนทั้งสิ้น 60 เรื่อง แต่มีคำร้องที่
ทางเพศของตนได้ ทั้งยังได้รับการคุ้มครองสิทธิต่าง ๆ ตามเพศที่ตน คณะกรรมการ วลพ. รับไว้พิจารณาเพียง 50 เรื่อง ส่วนอีก 10 เรื่องไม่รับ
เลือกด้วย กฎหมายเรื่องแรกนี้นับว่าสำคัญที่สุดเพราะเป็นกรณีที่รัฐให้สิทธิ 42
ความเห็นของผู้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกฎหมายในมิติที่เกี่ยวกับสิทธิของ
ในการกำหนดตนเอง (Self Determination) แก่พลเมือง เมื่อรัฐยอมรับ ผู้มีความหลากหลายทางเพศซึ่งสุดท้ายแล้วประเทศไทยควรก้าวต่อไปให้ถึงนี้ ผู้ศึกษา
สิทธิของบุคคลอย่างเสมอภาคเท่าเทียมโดยไม่ตั้งเงื่อนไขว่าเขาเป็นใคร เห็นว่าสอดคล้องกับแนวคิดของศาสตราจารย์วิทิต มันตาภรณ์ ซึ่งเคยให้ไว้ใน
ทำอะไร หรือเพศอะไร การถูกเลือกปฏิบัติย่อมเกิดขึ้นได้ยาก การคุ้มครอง เวทีสาธารณะ เรื่อง พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 กับสิทธิมนุษยชน
สิทธิเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติไม่ต้องรอให้ถูกเลือกปฏิบัติเสียก่อนจึงค่อยมา ของบุคคลหลากหลายทางเพศ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 ด้วย, ดู “ข้อสังเกตต่อ
แสดงตนว่าเป็นเพศใดและควรมีสิทธิอย่างไร 2) กฎหมายสมรสเท่าเทียม พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ผ่านมุมมองที่เกิดขึ้นใน
ซึ่งรับรองว่าบุคคลสามารถสมรสกันเพื่อก่อตั้งครอบครัวได้ไม่ว่าทั้งคู่จะมี บริบทของโลกยุคปัจจุบัน” ของวิทิต มันตาภรณ์ได้ใน กรกิต ชุ่มกรานต์ และคณะ,
รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการ “การสำรวจสถานะเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนใน
เพศกำเนิดใด และ 3) กฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ หรือความเท่าเทียม บริบทประเทศไทย และทางเลือกมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ สังคม และกฎหมาย”
ระหว่างเพศ กล่าวได้ว่ากฎหมายสามเรื่องนี้ควรเป็นมาตรฐานหรือเป็น เป้าหมายที่ 5 บรรลุความเท่าเทียมระหว่างเพศ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่
หมุดหมายเพื่อให้ความคุ้มครองสิทธิด้านต่าง ๆ แก่ผู้มีความหลากหลาย สตรีและเด็กหญิง (Gender Equality), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.),
ทางเพศ ซึ่งจะเห็นได้ว่าประเทศไทยเพิ่งอยู่เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น และมีแค่ 2560, หน้า 6-10.
พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ฉบับเดียว ประชาชนไทยยังไม่ได้รับสิทธิในการ 43 ดู ตารางจำนวนคำร้องที่ยื่นต่อคณะกรรมการ วลพ. ของกรมกิจการสตรีฯ
กองส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ ได้ในภาคผนวก 3
0 สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า
