Page 81 - 22385_Fulltext
P. 81
การศึกษาการบังคับใช้ การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
การสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับนโยบาย และการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ที่ถูกร้องเรียนมายังคณะกรรมการ วลพ. เพราะจำนวนมากเป็นการร้องเรียน
ในเชิงโครงสร้างได้มากที่สุด แต่ในช่วงระยะเวลากว่า 5 ปีของการบังคับใช้ ในเรื่องเดิมหรือมีประเด็นเดียวกันกับเรื่องที่คณะกรรมการ วลพ.
พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ คณะกรรมการ สทพ. กลับมีบทบาทหรือทำหน้าที่ เคยวินิจฉัยไปแล้ว ซึ่งย่อมหมายความว่าแม้คณะกรรมการ วลพ. จะเคย
น้อยที่สุดในบรรดาสามกลไกที่กฎหมายกำหนดขึ้น ซึ่งกลายเป็นปัจจัย ชี้ไว้แล้วว่ากฎหรือระเบียบนั้นไม่เป็นธรรมหรือเข้าข่ายเป็นการเลือกปฏิบัติ
สำคัญหนึ่งที่ทำให้กฎหมายฉบับนี้ไม่สามารถบรรลุตามเจตนารมณ์ และ แต่กฎระเบียบในลักษณะเดียวกันนี้ก็ยังคงใช้อยู่และทำหน้าที่เลือกปฏิบัติ
สถานการณ์การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศไม่ได้รับการแก้ไขอย่าง ต่อไปในหน่วยงานหรือองค์กรอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยถูกร้องเรียนเข้ามา
แท้จริง ทั้งนี้ ด้วยสาเหตุหลากหลายประการ กล่าวคือ ซึ่งปัญหาลักษณะนี้ควรยุติหรือบรรเทาลงได้ด้วยการดำเนินการภายใน
กรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ สทพ. (ดูมาตรา 10 (2) และ (4))
8.1.1 ภาครัฐให้น้ำหนักกับ “การรับเรื่องร้องเรียน” และ
การวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติผ่านกลไกคณะกรรมการ วลพ. มากกว่า อันเป็นการแก้ไขปัญหาในระดับแนวนโยบายหรือให้เกิดการปรับปรุง
การแก้ไขปัญหาในระดับโครงสร้าง รวมทั้งการสร้างความเสมอภาค กฎหมาย กฎ ระเบียบหรือข้อบังคับที่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติด้วย
ระหว่างเพศในมิติต่าง ๆ ทั้งที่ก่อนปี พ.ศ. 2558 นักวิชาการและ เหตุแห่งเพศ แต่จนถึงปัจจุบันการณ์ดังกล่าวก็ยังไม่เกิดขึ้นอย่างเป็น
ภาคประชาสังคมที่ร่วมกันผลักดันกฎหมายต่างมุ่งหวังให้กฎหมายฉบับนี้ รูปธรรม
เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมความเสมอภาคเป็นหลัก ซึ่งต่อมากฎหมาย 8.1.2 กฎหมายไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการทำงานที่ชัดเจน
กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่และบทบาทของคณะกรรมการ สทพ. (มาตรา 10) ทั้งไม่มีเงื่อนไขบังคับให้คณะกรรมการ สทพ. ต้องดำเนินการ เช่นนี้จึงขึ้น
เนื่องจากเป็นช่องทางในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย อยู่กับดุลยพินิจและความใส่ใจในการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการ
โครงสร้าง และกฎหมายอื่น ๆ ในภาพรวม ซึ่งจะนำไปสู่ความเสมอภาค สทพ. เป็นสำคัญ ทั้งนี้ หากพิจารณา พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ จะพบว่า
และช่วยลดการเลือกปฏิบัติในสังคมได้อย่างยั่งยืน เมื่อการขับเน้นของ ตามกฎหมายฉบับนี้คณะกรรมการ วลพ. จะถูกวางกรอบให้ต้องทำงาน
ภาครัฐอยู่ที่การทำงานของคณะกรรมการ วลพ. ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ด้วยเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามา และต้องวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายในกรอบ
สถานการณ์การเลือกปฏิบัติในประเทศไทยจึงถูกแก้ไขเป็นการเฉพาะเรื่อง ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ในขณะที่คณะกรรมการ สทพ. ไม่ถูกบังคับด้วย
เฉพาะรายเท่านั้นผ่านคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ วลพ. หาได้สร้าง กรอบของกฎหมาย ในทางปฏิบัติจึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการ
ความเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญหรืออย่างเป็นมหภาคไม่ เนื่องจาก สทพ. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบในการตั้งเรื่องว่า
ตามกฎหมายแล้วคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ วลพ. มีผลผูกพันเฉพาะ จะกำหนดให้มีวาระหรือจัดให้มีการประชุมเพื่อผลักดันนโยบายหรือ
คู่กรณีเท่านั้น มิได้ส่งผลต่อกฎหรือระเบียบที่มีปัญหาทำนองเดียวกันของ ออกคำสั่งในเรื่องใดหรือไม่ ต่อประเด็นนี้ผู้ให้สัมภาษณ์ทั้งอดีต
หน่วยงานอื่น ๆ ปัญหานี้ถูกสะท้อนให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเรื่อง คณะกรรมการ สทพ. เอง คณะกรรมการ วลพ รวมทั้งอนุกรรมการของ
สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า