Page 71 - 22385_Fulltext
P. 71

การศึกษาการบังคับใช้                                                                การศึกษาการบังคับใช้
                     พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย      พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย



                  ไปในทิศทางเดียวกับหลักความเสมอภาคและหลักสิทธิมนุษยชนสากล                               และการใช้การตีความที่คุ้มครอง ครอบคลุมกลุ่มผู้มีความหลากหลาย
                  ซึ่งกำลังเป็นกระแสสำคัญของโลก ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ                       ทางเพศด้วย จึงย่อมทำให้กฎหมายฉบับนี้สอดรับกับแนวคิดและหลักการ

                  รัฐไทยในการทำกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยการขจัด                           ดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ข้อ 2 แห่งหลักการยอกยาการ์ตา กำหนดว่า “มนุษย์
                  การเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (CEDAW) ซึ่งไทยเป็นภาคีตั้งแต่                       ทุกคนสมควรได้รับความคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ถูก

                  ปี พ.ศ. 2528 ด้วย โดยอนุสัญญาดังกล่าวกำหนดให้รัฐที่ให้สัตยาบันแล้ว                     เลือกปฏิบัติจากสาเหตุแห่งวิถีทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ มนุษย์ทุกคน
                  มีหน้าที่พิทักษ์และธำรงความเสมอภาคระหว่างเพศในกฎหมายภายใน                              ควรได้รับความคุ้มครองอย่างเสมอหน้ากันต่อหน้ากฎหมาย โดยปราศจาก
                  ของตน ด้วยการจัดทำกฎหมายเพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติต่อสตรี                             การเลือกปฏิบัติดังกล่าว ไม่ว่าสิทธิมนุษยชนข้ออื่นใดจะถูกละเมิดด้วย
                  รวมทั้งจัดให้มีองค์กรหรือสถาบันสาธารณะเพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติ                      หรือไม่ก็ตาม กฎหมายต้องบัญญัติห้ามการเลือกปฏิบัติดังกล่าว และ

                  ต่อสตรี และดำเนินการเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ                         รับประกันความคุ้มครองจากการเลือกปฏิบัติดังกล่าวอย่างได้ผลและ
                  กฎหมายฉบับนี้ยังสอดคล้องกับ “เป้าหมายที่ 5 ว่าด้วยการบรรลุความ                         เสมอภาคต่อมนุษย์ทุกคน” 40

                  เท่าเทียมระหว่างเพศและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สตรีและเด็กหญิง”                             อย่างไรก็ตาม จากการสัมภาษณ์ความเห็นต่อประเด็น
                  อันเป็นหนึ่งใน 17 เป้าหมายของ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน”                             ความสอดคล้องกับหลักสากลและพันธกรณีระหว่างประเทศนี้
                  (Sustainable Development Goal – SDGs) ของโลกในอีก 15 ปี                                ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีโอกาสได้ศึกษา หรือทำงาน
                  ข้างหน้า ซึ่งประชาคมโลกใช้เป็นทิศทางในการพัฒนาประเทศตั้งแต่เดือน                       ร่วมกับองค์การระหว่างประเทศ หรือร่วมประชุมสัมมนาในเวทีระดับ

                  กันยายน 2558 ถึงเดือนสิงหาคม 2573 ด้วย
                                                                                                         นานาชาติ ต่างตั้งข้อสังเกตและค่อนข้างเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า
                          นอกจากนี้ แม้จุดเริ่มต้นของแนวคิดหรือในวาระแรกของ                              แม้ พ.ร.บ. ความเท่าเทียมฯ จะมีจุดเริ่มต้นและแนวคิดมาจากอนุสัญญา
                  การผลักดันให้เกิดกฎหมายในเรื่องนี้จะยังไม่มีการกล่าวถึง “แนวทาง                        CEDAW ก็ตาม แต่เมื่อกฎหมายฉบับนี้ผ่านออกมาและมีผลใช้บังคับ
                  ปฏิบัติตามหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศว่าด้วยเรื่อง                             กลับปรากฎว่าเนื้อหาของกฎหมายก็ดี การใช้การตีความก็ดี รวมทั้ง

                  วิถีทางเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศ” หรือหลักการยอกยาการ์ตา                                  ทัศนคติ ความรู้ความเข้าใจในเจตนารมณ์ของกฎหมายของฝ่ายผู้บังคับใช้
                                           39
                  (The Yogyakarta Principle)  แต่ในท้ายที่สุดแล้วทั้งตัวบทบัญญัติเอง                     ยังค่อนข้างแตกต่างและห่างไกลจากหลักการที่ถูกต้อง และมาตรฐานสากล

                         39   The Yogyakarta Principle คือ แนวทางปฏิบัติในทางระหว่างประเทศ
                  ฉบับแรกที่นำมาตรฐานสิทธิมนุษยชนมาใช้กับประเด็นเพศวิถี และอัตลักษณ์ทางเพศ                     40   สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, หลักการยอกยาการ์ตา
                  โดยมีข้อแนะนำให้แก่รัฐในการปฏิบัติการเพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของพลเมือง         ว่าด้วยการใช้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ในประเด็นวิถีทางเพศ
                  ไว้อย่างชัดเจน เป็นหลักการที่เป็นผลมาจากการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนและ       และอัตลักษณ์ทางเพศ แนวทางสร้างหลักประกันคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ให้ก้าวไปสู่
                  นักกฎหมายระหว่างประเทศ ณ ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 6-9 พฤศจิกายน 2549            ความเสมอภาคและเคารพสิทธิทางเพศ, กรุงเทพฯ: บริษัทพิมพ์ดี จำกัด


             56    สถาบันพระปกเกล้า                                                                                                                  สถาบันพระปกเกล้า   57
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76