Page 70 - 22385_Fulltext
P. 70
การศึกษาการบังคับใช้ การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
6.1 ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรม อีกจำนวนมากยังมีลักษณะของความไม่เสมอภาค (ดูหัวข้อ 4.3 ข้อสังเกต
ในสังคม และความคิดเห็นต่อการบังคับใช้ และความจำเป็นของ พ.ร.บ.
ความเท่าเทียมฯ) นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าความตระหนักรู้ถึงกฎหมาย
ด้วยเหตุที่พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ถูกบัญญัติขึ้นโดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อให้ความคุ้มครองแก่เพศหญิง เพศชาย รวมทั้งบุคคลที่มี สิทธิหน้าที่ ความเสมอภาคระหว่างเพศ และการห้ามเลือกปฏิบัติ
ความหลากหลายทางเพศให้สามารถดำรงสถานะของตนอยู่ในสังคมไทย ด้วยเหตุแห่งเพศของคนในสังคมไทยยังไม่อยู่ในระดับที่จะก่อให้เกิด
ได้อย่างเท่าเทียมเสมอหน้าและมีโอกาสเหมือนกัน ทั้งต้องการสร้าง ความเปลี่ยนแปลงใด ๆ หรือสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศได้ในเวลา
ช่องทางหรือเปิดโอกาสให้บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของการเลือกปฏิบัติ อันใกล้ ซึ่งจากการสัมภาษณ์บุคคลในประเด็นนี้เพิ่มเติมเพื่อประกอบงาน
ด้วยเหตุแห่งเพศสามารถร้องขอความเป็นธรรม รวมทั้งขอให้รัฐ ศึกษานี้ ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นความล้มเหลวข้อหนึ่งของ
ช่วยเยียวยาความเสียหายอันเกิดจากการถูกเลือกปฏิบัติดังกล่าวได้ผ่าน การบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ อนึ่ง ผู้ให้สัมภาษณ์ในภาคประชาสังคม
กลไกคณะกรรมการ วลพ. และกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ บางคนตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะเป้าหมายหลักและกรอบการทำงานของ
นอกจากนี้ยังมีกลไกคณะกรรมการ สทพ. ซึ่งเป็นคณะกรรมการระดับชาติ รัฐขับเน้นไปที่การทำความเข้าใจกับหน่วยงานภาครัฐด้วยกันเองมากกว่า
ที่ถูกออกแบบมาพร้อมกับอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมความเสมอภาค จึงไม่ได้เต็มที่กับส่วนของการสร้างความรับรู้ของสังคม แต่อย่างน้อยที่สุด
ระหว่างเพศในระดับนโยบาย ดังนั้น โดยแนวคิดพื้นฐานเหล่านี้เอง กฎหมายฉบับนี้ก็ช่วยทำให้คนที่รู้ว่ามีกฎหมายแล้วได้ตระหนักในสิทธิและ
ประกอบกับการดำเนินงานของผู้รับผิดชอบในการบังคับใช้กฎหมาย ความหลากหลายทางเพศของผู้อื่นมากขึ้น ทั้งคอยระมัดระวังไม่ให้เกิด
โดยตรงอย่างกองส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ กรมกิจการสตรีฯ การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ หรือถ้าเป็นหน่วยงาน สถาบันการศึกษา
ตามที่ได้อธิบายไปแล้วในหัวข้อก่อน ๆ จึงต้องยอมรับว่ากฎหมายฉบับนี้ หรือองค์กรภาครัฐการมีอยู่ของกฎหมายฉบับนี้ก็อาจมีส่วนช่วยทำให้เกิด
สามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเพศลงได้ในระดับหนึ่ง การปรับตัวมากกว่า นอกจากนี้ การมีกฎหมายยังน่าจะเป็นเหตุที่ทำให้
สื่อมวลชนบางสำนักเริ่มหันมาให้ความสนใจจับประเด็นนี้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดังอธิบายไปบ้างแล้วเช่นกันว่าการช่วยลด ซึ่งย่อมทำให้คนในสังคมตระหนักรู้ได้อีกทางหนึ่ง
ความเหลื่อมล้ำระหว่างเพศก็ดี หรือลดการเลือกปฏิบัติจากเหตุแห่งเพศ
ก็ดี โดยผลของกฎหมายฉบับนี้ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจหรือมี 6.2 เป็นการพัฒนากฎหมายให้สอดคล้องกับหลักสากล
นัยสำคัญที่จะสร้างความเป็นธรรมเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยได้อย่าง และพันธกรณีระหว่างประเทศ
แท้จริงแม้กฎหมายจะบังคับใช้มากว่า 5 ปีแล้วก็ตาม เนื่องจาก หากมองในภาพรวม และพิจารณาจากที่มาของ พ.ร.บ.
สถานการณ์การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศในมิติต่าง ๆ ยังดำรงอยู่ ความเท่าเทียมฯ ย่อมกล่าวได้ว่าการมีอยู่ของกฎหมายฉบับนี้ส่งผลให้
โดยบางกรณีมีความซับซ้อนขึ้น ในขณะที่กฎระเบียบต่าง ๆ ของรัฐเอง กฎหมายไทยที่ว่าด้วยความเสมอภาคระหว่างเพศมีพัฒนาการ
54 สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า 55