Page 61 - 22385_Fulltext
P. 61
การศึกษาการบังคับใช้ การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
5.1 นโยบาย กฎหมาย และกฎระเบียบต่าง ๆ น่าจะ กฎหมายอย่างการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อทำงานภายใต้
ได้รับการปรับปรุง แก้ไขให้สอดคล้องกับหลักความเท่าเทียม คณะกรรมการ สทพ.เอง หรือจัดทำอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องฉบับต่าง ๆ แล้ว
ระหว่างเพศมากขึ้น คณะกรรมการ สทพ. มีผลงานที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมออกมาเพียง
เรื่องเดียวเท่านั้น คือ “ข้อเสนอแนะว่าด้วย แนวทางปฏิบัติ
เป็นที่ทราบกันดีว่า แค่เพียงการมีสัญญาณว่าคนในสังคม ด้านการส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
จำนวนมากขึ้นเริ่มตระหนักรู้ถึงหลักความเสมอภาคและความเท่าเทียม ระหว่างเพศตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ” ซึ่งต่อมา
เปิดกว้างหรือให้การยอมรับวิถีชีวิตที่แตกต่างมากขึ้น ยังไม่เพียงพอที่จะ กรมกิจการสตรีฯ ก็ดำเนินการจัดส่งเป็นหนังสือราชการเวียนไปยัง
ทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศหายไป หรือลดลงได้จริง การรวมกลุ่ม หน่วยงานรัฐทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2561 แต่ก็อาจพอนับได้ว่า
31
กันเองเพื่อสร้างอำนาจในการต่อรอง การรณรงค์ต่าง ๆ รวมทั้งการให้ ผลงานชิ้นนี้น่าจะส่งผลดีต่อประชาชนได้บ้างในระดับหนึ่ง โดยความ
ความช่วยเหลือโดยหน่วยงานภาคประชาสังคมอาจทำให้สถานการณ์ เคลื่อนไหวเพื่อตอบสนองต่อข้อเสนอแนะแนวทางฯ ของคณะกรรมการ
ดังกล่าวบรรเทาลงได้ แต่ตราบใดที่สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ไร้ซึ่งสภาพบังคับ สทพ. เริ่มปรากฏตัวในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 นำโดยกระทรวงพัฒนา
ทางกฎหมายไม่ได้มีสถานะเป็นนโยบายแห่งรัฐที่ชัดเจนและกว้างขวาง สังคมฯ ร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชนจำนวนมาก ประกาศเจตนารมณ์
32
การเลือกปฏิบัติทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งโจ่งแจ้งและแอบแฝงก็จะยังคง “การส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
ดำรงอยู่ ดังนั้น เมื่อ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ กำหนดให้มีคณะกรรมการ
สทพ. ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย รวมทั้งแผนปฏิบัติงาน 31 คณะกรรมการ สทพ, “ข้อเสนอแนะว่าด้วย แนวทางปฏิบัติด้าน
เพื่อให้มีการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศในทุกภาคส่วน เสนอแนะ การส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศตาม
แนวทางการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ต่อคณะรัฐมนตรี พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ”, สืบค้นวันที่ 5 เมษายน 2564, เข้าถึงได้ที่
เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม http://personnel.ops.go.th/main/images/2561/pang/เสมอภาคหญิงชาย/
ระหว่างเพศ ไปจนถึงการปรับปรุงแผนความประพฤติทางสังคมและ ครั้งที่_9_ข้อเสนอแนะว่าด้วยแนวทางปฏิบัติด้านการส่งเสริมความเสมอภาคฯ.pdf
ดู ประกาศเจตนารมณ์ “การส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือก
32
วัฒนธรรมระหว่างเพศเพื่อขจัดอคติในทางเพศ (มาตรา 10) จึงย่อม ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ
เท่ากับว่านับแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา รัฐไทยแสดงถึงการรับรู้ถึงปัญหา พ.ศ. 2558”, สืบค้นวันที่ 17 พฤษภาคม 2564, เข้าถึงได้ที่ https://drive.google.
นี้แล้วอย่างเป็นทางการ ทั้งยังยกระดับสถานะของการต่อสู้เพื่อลด com/file/d/1ZKk2BlxwZhXNHDsdbTDZFs74JSwWEES7/view และ
ความเหลื่อมล้ำระหว่างเพศของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ให้กลายเป็นหน้าที่ ดูรายละเอียดเกี่ยวกับหน่วยงานที่ร่วมประกาศเจตนารมณ์ พร้อมทั้งจัดทำแผน
และภารกิจของรัฐโดยตรงด้วย ทั้งนี้ แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่าภายหลัง การดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนงานตามประกาศเจตนารมณ์ ซึ่งประกอบด้วย ภาครัฐ
บังคับใช้กฎหมายมานานกว่า 5 ปี นอกเหนือจากหน้าที่ที่ต้องทำตาม และรัฐวิสาหกิจ จำนวน 4 แห่ง สถาบันการศึกษา จำนวน 5 แห่ง และภาคเอกชน
จำนวน 15 แห่ง รวมจำนวน 24 แห่ง ได้ใน ภาคผนวก 4.
สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า