Page 58 - 22385_Fulltext
P. 58
การศึกษาการบังคับใช้ การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
ผู้หญิง หรือมีการใส่ข้อสังเกตเกี่ยวกับเพศสภาพของผู้สมัครที่เป็น LGBT นอกจากนี้ ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนหนึ่งเห็นว่า แม้ดูเหมือนว่าในช่วง
ไว้ที่หัวใบสมัครก่อนเข้ารับการสัมภาษณ์จากกรรมการ เป็นต้น หลายปีที่ผ่านมาภาพพจน์ของประเทศไทยในประเด็นเรื่องความเสมอภาค
ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการแก้ไขปัญหา เนื่องจากที่ผ่านมา เท่าเทียมระหว่างเพศ หรือการยอมรับสิทธิเสรีภาพของบุคคลผู้มี
การพิสูจน์ถึงการเลือกปฏิบัติทำได้ยากลำบากอยู่แล้ว แต่เมื่อการเลือก ความหลากหลายทางเพศจะดีกว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน
ปฏิบัติไม่ได้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนเช่นแต่ก่อนและถูกซ่อนเร้นไว้ใน แต่ในความจริงอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้น แน่นอนว่าความรุนแรงทางกายภาพ
กระบวนการอื่นก็ยิ่งทำให้ทั้งการหาพยานหลักฐาน และการพิสูจน์ทราบ อย่างการทำร้ายร่างกาย หรือฆ่ากันเพราะเหตุแห่งเพศอาจไม่ค่อยพบเห็น
ถึงการมีอยู่ของการเลือกปฏิบัติทำได้ยากลำบากขึ้นไปอีก อนึ่ง แม้จนถึง ในประเทศไทยเหมือนกับในประเทศอื่น ๆ แต่ก็ไม่ใช่เครื่องสะท้อนว่า
ปัจจุบันจำนวนคำร้องที่มีมายังคณะกรรมการ วลพ. จะมีเพียง 60 เรื่อง การเลือกปฏิบัติด้วยวิธีการอื่น ๆ ในเมืองไทยเกิดขึ้นน้อยกว่าประเทศอื่น
เท่านั้น แต่จำนวนเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไม่ใช่ตัวชี้วัดเช่นกันว่าประเทศไทย จะด้วยเหตุผลในแง่ของสังคมที่ยังมีความเป็นอำนาจนิยมสูง ระบบชนชั้น
มีการเลือกปฏิบัติเพียงเล็กน้อย ในความเป็นจริง การเลือกปฏิบัติ ที่แข็งแกร่ง วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ หรือมายาคติเรื่องไม่อยากเป็น
30
ในประเทศไทยในแต่ละปียังคงมีเป็นจำนวนมาก และไม่ใช่ทั้งหมดที่ผู้ได้รับ คดีความก็ตาม ส่งผลให้ปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติยังคงถูกกดทับไว้
ผลกระทบจะตัดสินใจเปิดเผยหรือขอรับความช่วยเหลือจากองค์กรหรือ ไม่ถูกตีแผ่ออกมาเหมือนดังเช่นประเทศอื่น และต่อให้มี พ.ร.บ.
หน่วยงาน เพราะติดขัดด้วยอุปสรรคและปัญหาหลายประการ (ซึ่งจะได้ ความเท่าเทียมฯ แล้ว ก็ยังไม่ได้ทำให้สถานการณ์ในเรื่องนี้ดีขึ้น
กล่าวถึงต่อไปข้างหน้า) ทำให้จำนวนคำร้องเรียนที่ยื่นเข้าไปยังคณะกรรมการ ผู้ให้สัมภาษณ์ที่เป็นนักวิชาการยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าแม้พื้นที่สำหรับสิทธิ
วลพ. มีไม่มาก การเลือกปฏิบัติระหว่างเอกชนกับเอกชนด้วยกันจำนวน ของผู้มีความหลากลายทางเพศในประเทศไทยดีขึ้นกว่าอดีตจริง หากแต่
ไม่น้อยจบลงด้วยการตกลงประนีประนอมกัน กรณีที่มีการร้องเรียน น่าจะเป็นผลพวงมาจากกระแสสิทธิมนุษยชนโลก สื่อโซเชียล (Social
มาตามกลไกของกฎหมายฉบับนี้ส่วนใหญ่เป็นข้อพิพาทระหว่างรัฐกับ Media) มุมมองและแนวคิดของคนรุ่นใหม่ รวมทั้งการรณรงค์ของ
ประชาชน และในประเด็นคล้าย ๆ กันอย่างหน่วยงานรัฐมีกฎหรือ ภาคประชาสังคมที่มีมากขึ้นมากกว่า พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ยังไม่ใช่
ระเบียบห้ามครู อาจารย์ หรือนักศึกษาผู้มีความหลากหลายทางเพศ ตัวแปรสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในประเด็นนี้
แต่งกายตามเพศสภาพในสถานที่ทำงาน รัฐไม่ยอมออกบัตรข้าราชการ สำหรับประเด็นเรื่องความจำเป็นของ พ.ร.บ. ความเท่าเทียมฯ
ให้ด้วยเหตุคำนำหน้านามไม่ตรงกับรูปถ่ายหรือเพศสภาพ หรือหน่วยงาน ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่เห็นว่า นับตั้งแต่กฎหมายมีผลใช้บังคับ ได้ก่อให้
ภาครัฐไม่รับ LGBT เข้าทำงานในบางตำแหน่ง เป็นต้น
เกิดผลในแง่ของการสร้างความตระหนักรู้ในประเด็นความเสมอภาค
30 มีผู้มาร้องขอให้มูลนิธิฟ้าสีรุ้งฯ ช่วยเหลือหรือขอคำแนะนำเพราะ ระหว่างเพศและการห้ามเลือกปฏิบัติในสังคมไทยได้มากขึ้น แม้จะยัง
ถูกเลือกปฏิบัติหรือถูกคุกคามด้วยเหตุแห่งเพศใน ปี 2562 จำนวน 27 กรณี และปี 2563 ไม่เกิดขึ้นในวงกว้างหรือกับประชาชนส่วนใหญ่ก็ตาม แต่ก็สามารถสร้าง
อีก 28 กรณี ซึ่งเหล่านี้เป็นสถิติของมูลนิธิฟ้าสีรุ้งฯ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ดูภาคผนวก 5
42 สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า