Page 215 - 22385_Fulltext
P. 215
การศึกษาการบังคับใช้ การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
มิได้ก่อให้เกิดผลใด ๆ อย่างเป็นรูปธรรม หรือไม่ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง 2.5) ภาระงานของคณะกรรมการ วลพ. หนักเกินไป ทั้งในแง่
ใด ๆ ต่อสถานการณ์ที่พวกเขาถูกกระทำอย่างชัดเจน ก็อาจป่วยการที่จะมา ของเนื้อหาการทำงาน (พิจารณาคำร้อง แสวงหาข้อเท็จจริง สืบพยาน
ยื่นคำร้องในกลไกนี้ซึ่งพวกเขาเองต่างมีต้นทุนต้องแบกรับ หรือหากสุดท้าย ทำคำวินิจฉัย และรายงานผล) และในแง่ของกรอบเวลาในการทำงาน
แล้วจำเป็นต้องไปฟ้องร้องต่อศาลเองพวกเขาก็คงไม่เลือกที่จะมาใช้กลไกนี้ ซึ่งไม่สมดุลกับค่าตอบแทนและเวลาที่คณะกรรมการซึ่งส่วนใหญ่เป็น
ตั้งแต่แรก ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีงานประจำของตนเองอยู่แล้วต้องทุ่มเทให้ ประเด็นนี้
ถูกสะท้อนจากนักวิชาการผู้ให้สัมภาษณ์ซึ่งไม่ได้เป็นคณะกรรมการ วลพ.
ต่อประเด็นปัญหาของอำนาจในเชิงบังคับของคณะกรรมการ
วลพ. นี้ กลุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ซึ่งเป็นคณะกรรมการ วลพ. เองและอดีต แต่เห็นว่าเป็นอุปสรรคและปัญหาประการหนึ่งของกลไกลนี้ด้วย เนื่องจาก
คณะกรรมการสะท้อนเพิ่มเติมว่ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับศักดิ์หรือลำดับ หากตัวกลไกการทำงานเอง (อาศัยการนัดหมายและการประชุมเป็นครั้ง ๆ ไป)
ชั้นของกฎหมายด้วย เนื่องจาก พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ เป็นกฎหมายระดับ และค่าตอบแทน (เบี้ยประชุม) ไม่เอื้อต่อการทำงาน ย่อมกระทบกับ
พระราชบัญญัติที่อาจมีลำดับชั้นเท่ากับกฎหมายฉบับอื่น ๆ ที่หน่วยงานรัฐ ประสิทธิภาพและความรวดเร็วในพิจารณาและวินิจฉัยคำร้อง รวมทั้งส่งผล
ผู้ถูกร้องบังคับการหรือปฏิบัติตามอยู่ เช่นนี้ คำวินิจฉัยและคำสั่งของ ต่อจำนวนบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถที่พร้อมและอยากเข้ามาทำงานด้วย
คณะกรรมการ วลพ. ซึ่งใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ จึงไม่มีผล อนึ่ง โดยกลไกของกฎหมายและลักษณะการทำงานแบบราชการที่ทำให้ต้องมี
เป็นการลบล้างหรือเปลี่ยนแปลงกฎหมายอีกฉบับซึ่งอยู่ในลำดับชั้นเดียวกันได้ การสับเปลี่ยนหมุนเวียนตำแหน่งและบุคลากร ได้ก่อให้เกิดปัญหาในแง่ของ
ที่ผ่านมา แม้กรณีส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเกิดปัญหาใด ๆ ในการทำตามคำสั่ง ความต่อเนื่องในการทำงาน และไม่สามารถสร้างความเชี่ยวชาญให้กับ
เพราะหน่วยราชการมักให้ความร่วมมือดีหรือพร้อมแก้ไขปรับเปลี่ยน ฝ่ายผู้บังคับใช้กฎหมายได้ ทั้งนี้ ทั้งในระดับของคณะกรรมการ และพนักงาน
ในขณะที่หน่วยงานเอกชนไม่อยากมีปัญหา ทั้งกลัวชื่อเสียงถูกกระทบ เจ้าหน้าที่ประจำ ซึ่งไม่น่าจะเป็นผลดีนักต่อการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้
แต่ก็เกิดกรณีที่ผู้ถูกร้องไม่ทำตามคำสั่งมาแล้วเช่นกันด้วยเหตุผลในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเฉพาะทางและมีประเด็นละเอียดอ่อน ที่เรียกร้องความรู้ความเชี่ยวชาญ
ซึ่งย่อมสะท้อนให้เห็นว่าในความเป็นจริงแล้วคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ไม่เฉพาะแต่ด้านกฎหมายเท่านั้น แต่หมายถึงหลักความเสมอภาคเท่าเทียม
วลพ. มีสถานะเพียง “กึ่งสภาพบังคับ” เท่านั้น และในบางกรณีนอกจาก และประเด็นในเรื่องเพศด้วย
ไม่ปฏิบัติตามแล้วหน่วยงานผู้ถูกสั่งการนั้นยังยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้ อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนในแง่ดีของกลไกคณะกรรมการ
เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ วลพ. ด้วย ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน วลพ. ก็มีเช่นกัน กล่าวคือ
คณะกรรมการ วลพ. ถูกฟ้องคดีต่อศาลปกครองแล้วทั้งสิ้น 4 คดี 2.6) ผู้ให้สัมภาษณ์ในงานศึกษานี้เกือบทั้งหมดยอมรับ และ
จากคำวินิจฉัย 4 คำร้องโดยศาลปกครองยังมิได้มีคำวินิจฉัยใด ๆ ออกมา
เห็นพ้องต้องกันว่าช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุ
แห่งเพศต่อคณะกรรมการ วลพ. ไม่ยุ่งยาก สะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงง่าย
200 สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า 201