Page 219 - 22385_Fulltext
P. 219
การศึกษาการบังคับใช้ การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
ความเท่าเทียมระหว่างเพศ รวมทั้งสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน ซึ่งอาจ ชดเชยตามระเบียบกองทุนฯ นี้ หมายเฉพาะการจ่ายภายหลังมีคำวินิจฉัย
สรุปข้อสังเกตจากกลุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ ได้ดังนี้ ของคณะกรรมการ วลพ. ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติแล้วเท่านั้น ไม่ปรากฏว่า
มีเงินช่วยเหลือใด ๆ แก่ผู้ร้องในระหว่างการพิจารณาข้อเท็จจริงโดย
3.1) แม้โดยผลของ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ทำให้รัฐออก
อนุบัญญัติหลายฉบับเพื่อกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการร้องขอค่าชดเชย คณะกรรมการ วลพ. ในขณะที่ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ไม่อนุญาตให้องค์กร
เยียวยาความเสียหายที่เกิดจากการถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งมีเนื้อหาค่อนข้าง เอกชนหรือภาคประชาสังคมร้องเรียนในฐานะผู้เสียหายโดยตรงได้
เข้าใจง่าย ทั้งมีแบบฟอร์มชัดเจนซึ่งน่าจะเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนได้ดี ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก็คือ โดยลักษณะของผู้มาร้องขอความเป็นธรรมเพราะ
แต่นับจากวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับจนถึงปัจจุบัน กลับมีการจ่ายเงินเพื่อ ถูกเลือกปฏิบัตินั้นเอง จำนวนไม่น้อยเป็นคนชายขอบของสังคมหรืออยู่ใน
ชดเชยเยียวยาให้กับผู้เสียหายจากการเลือกปฏิบัติเพียงสองกรณีเท่านั้น ระดับล่างของความสัมพันธ์เชิงอำนาจ อย่างการเป็นผู้ที่อาจถูกเลิกจ้าง
ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนหนึ่งแสดงความเห็นว่าน่าจะมาจากหลากหลายสาเหตุ อาทิ ถูกปฏิเสธไม่รับเข้าทำงาน นายจ้างไม่ให้สวัสดิการ หรือผู้บังคับบัญชา
ผู้ร้องเรียนเข้ามาไม่ได้ต้องการการชดเชยเยียวยาใด ๆ หากแต่ต้องการยืนยัน ไม่ประเมินผลงานให้ เป็นต้น กล่าวอีกอย่างก็คือ ผู้ร้องเรียนตามกฎหมาย
สิทธิของตนและให้คณะกรรมการ วลพ. วินิจฉัยว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ฉบับนี้มีต้นทุนที่ต้องใช้เพื่อการร้องเรียนมากกว่ากรณีอื่น ๆ ตั้งแต่การต้อง
ซึ่งถ้าเป็นการเลือกปฏิบัติจริงก็ประสงค์ให้ดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ถูกร้อง แสดงตัวว่าเป็นคู่ขัดแย้งกับผู้มีอำนาจเหนือกว่า สุ่มเสี่ยงต่อการลูกไล่ออก
ระงับ หรือแก้ไขคำสั่งหรือกฎเหล่านั้นเสีย หรือผู้ร้องอาจเห็นว่าการต้องหา ระหว่างคำร้องเข้าสู่กระบวนการ อาจต้องเผชิญหน้ากับสิ่งแวดล้อมที่ไม่เป็น
พยานมาสืบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นคืออะไร และมีมูลค่าเท่าใดบ้าง มิตรในที่ทำงานต่อไป เมื่อต้องมาชี้แจงหรือให้ข้อมูลกับคณะกรรมการ วลพ.
เป็นเรื่องยุ่งยาก ทั้งไม่อยากเสียเวลาอีกเพราะลำพังกระบวนการพิจารณาของ ก็อาจต้องลางาน เดินทางมาที่ส่วนกลางซึ่งจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่าย กรณีที่
คณะกรรมการ วลพ. ก็นานมากอยู่แล้ว รวมทั้งผู้ร้องไม่รู้ว่าตนมีสิทธิร้องขอ แย่ที่สุดก็คืออาจต้องเสียเวลาสมัครงานใหม่ แต่กฎหมายกลับไม่เปิดช่อง หรือ
ค่าชดเชยเยียวยาได้ เป็นต้น ซึ่งกรณีหลังนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจจำเป็น ไม่มีงบประมาณเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในเรื่องต่าง ๆ ดังกล่าวแก่ผู้ร้องเลย
ต้องพิจารณาทบทวนว่าได้มีการประชาสัมพันธ์เรื่องนี้อย่างกว้างขวาง จนอาจส่งผลในภาพรวมว่าสุดท้ายแล้ว ผู้ถูกเลือกปฏิบัติจึงเลือกที่จะถูกเลือก
เพียงพอแล้วหรือไม่ โดยสถานการณ์เหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบต่องบประมาณ ปฏิบัติต่อไป และกดทับปัญหาไว้ แทนการเลือกที่จะมาร้องขอความเป็นธรรม
ที่กองทุนฯ จะได้รับเพื่อนำใช้ดำเนินกิจการต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต รวมทั้ง ตามกฎหมายฉบับนี้ และเหล่านี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ
ต่อการประเมินผลความสำเร็จ หรือระดับของการบรรลุวัตถุประสงค์ของ มิได้เข้าใจปัญหาของคนที่ถูกเลือกปฏิบัติอย่างแท้จริง อนึ่ง ผู้ศึกษาเห็นว่า
กองทุนและกฎหมายฉบับนี้ด้วย การจะทำความเข้าใจปัญหานี้ได้ ผู้มีอำนาจและฝ่ายผู้บังคับใช้กฎหมายจำเป็น
ต้องปรับทัศนคติและมุมมองด้วยว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือระหว่าง
ปัญหาอีกลักษณะหนึ่งที่ถูกสะท้อนมาทั้งจากคณะกรรมการ การพิจารณาคำร้องนี้ ย่อมมิใช่การตัดสินไปก่อนแล้วว่าผู้ถูกร้องกระทำการ
วลพ. และผู้เคยยื่นคำร้องเรียนต่อคณะกรรมการ วลพ. ก็คือ การจ่ายเงิน ใด ๆ อันเป็นเลือกปฏิบัติตามคำร้องจริง เป็นแต่เพียงการช่วยเหลือ และ
204 สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า 205