Page 222 - 22385_Fulltext
P. 222

การศึกษาการบังคับใช้                     การศึกษาการบังคับใช้
 พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย   พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย



 สร้างกระบวนการที่เป็นมิตรและเอื้อต่อการตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรม  หน่วยงานหรือองค์กรผู้ขอต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากและใช้เวลานานเพื่อ
 จากสถานการณ์แบบนี้เท่านั้น     อธิบายโครงการให้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เข้าใจว่าโครงการที่ทำ
                   มีความเกี่ยวข้องกับประเด็นการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศอย่างไร เพื่อให้
    3.2) การพิจารณาให้เงินสนับสนุนเพื่อดำเนินการอื่น ๆ ตาม

 มาตรา 30 (สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาวิจัย การให้ความรู้หรือ    ได้มาซึ่งเงินทุนจำนวนไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับทุนที่เคยได้รับจากแหล่ง
 สร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์กฎหมายและสิทธิต่าง ๆ     ทุนที่อื่นส่งผลให้องค์กรไม่ประสงค์จะขอทุนจากกองทุนนี้อีก อย่างไรก็ดี
 เพื่อเป้าหมายในการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และป้องกันมิให้มี  หากมองในฝั่งของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เองซึ่งต้องตกอยู่ใน
 การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ) ยังมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก ทั้งในแง่ของ    กรอบคิดแบบราชการซึ่งมีกระบวนการที่บังคับว่าต้องพิจารณาโครงการ

 ผู้มีสิทธิขอรับเงินทุน ประเภทของกิจกรรมที่มักได้รับการอนุมัติ รวมทั้ง    อย่างรัดกุม เนื่องจากอาจถูกตรวจสอบได้กรณีมีข้อสงสัย ทั้งติดขัดด้วย
 ความยุ่งยากในการยื่นขอรับเงินสนับสนุน ทั้งนี้ เป็นที่น่าสนใจว่าแม้    จำนวนบุคลากรทำให้กระบวนการลักษณะนี้ของประเทศไทยไม่สามารถ

 คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เอง และหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายอย่าง  เปลี่ยนแปลงอะไรได้มากนัก ซึ่งแตกต่างจากองค์กรต่างประเทศหรือระหว่าง
 กรมกิจการสตรีฯ จะออกอนุบัญญัติว่าด้วยเรื่องการใช้เงินกองทุนฯ กำหนด  ประเทศที่มักมีเจ้าหน้าที่คอยสืบหาข้อมูลหรือสืบเสาะประวัติและผลงานของ
 แบบฟอร์มการยื่นขอ และการรายงานผลไว้อย่างชัดเจน รวมทั้งจัดทำคู่มือ  ผู้ขอรับทุนเองด้วยเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ทั้งไม่ได้เน้นหนักไปที่กิจกรรม
 การขอรับทุนจากกองทุนทั้งฉบับทั่วไป และฉบับประชาชนแล้ว แต่ยังคงมี  รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ในขณะที่ขั้นตอนของการตรวจสอบการใช้เงินทุนและ

 เสียงสะท้อนจากกลุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนทำงาน    การประเมินผลของโครงการที่ได้รับการสนับสนุนก็อาศัยระบบเชื่อมั่นและ
 ในภาคประชาสังคมว่ามีคนรับรู้ว่ามีกองทุนฯ และช่องทางนี้อยู่เพียงในวงจำกัด   ไว้วางใจมากกว่าระบบการตรวจสอบการใช้เงินแบบหน่วยงานราชการไทย

 เท่านั้น ผู้ยื่นขอรับทุนจำนวนไม่น้อยมาจากการบอกกล่าวกันปากต่อปาก   ที่มักตั้งข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ได้รับทุนมีแนวโน้มในทางทุจริต หรือไม่ได้ใช้
 หรืออาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวบอกกล่าวให้รับรู้และเชิญชวนให้ไปขอ     เงินทุนไปเพื่อทำโครงการตามที่ยื่นขอไว้
 หรืออาจกล่าวได้ว่า อุปสรรคและปัญหาของการใช้เงินกองทุนฯ ในส่วนนี้       นอกจากปัญหาความยุ่งยากในขั้นตอนการยื่นขอ การพิจารณา
 จึงเป็นปัญหาแบบเดียวกับการใช้เงินกองทุนฯ ไปเพื่อการชดเชยเยียวยา    อนุมัติ และการประเมินผลดังกล่าวแล้ว ตามประกาศคณะกรรมการบริหาร

 ความเสียหายที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนว่า    กองทุนที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์เงื่อนไขการขอรับทุน ยังกำหนดนิยามของ
 ที่ผ่านมาได้มีการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวางและทั่วถึงแล้วหรือไม่ เพียงใด    “ผู้ขอรับเงินสนับสนุน” ไว้หมายเฉพาะ “มูลนิธิ สมาคม ชมรม องค์กร
                   สาธารณประโยชน์ หรือองค์กรสวัสดิการชุมนุม หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กร
    ผู้ให้สัมภาษณ์ซึ่งเคยได้รับเงินสนับสนุนการทำโครงการจาก

 กองทุนฯ สะท้อนเพิ่มเติมด้วยว่า กระบวนการให้ทุนค่อนข้างยุ่งยาก และ  เอกชน ซึ่งมีผลงานหรือมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการหรือมีโครงการเพื่อ
 หลักเกณฑ์การพิจารณายังติดกับกรอบการทำงานแบบราชการมากเกินไป   ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ...” (ข้อ 2 ของประกาศดังกล่าว) เท่านั้น
                   ซึ่งย่อมหมายความว่าผู้มีสิทธิขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ นี้ต้องเป็น



 206  สถาบันพระปกเกล้า                                            สถาบันพระปกเกล้า   207
   217   218   219   220   221   222   223   224   225   226   227