Page 225 - 22385_Fulltext
P. 225

การศึกษาการบังคับใช้                                                                การศึกษาการบังคับใช้
                     พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย      พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย



                 เจ้าพนักงาน ทั้งไม่มีผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนที่เหมาะสมเพื่อสร้างแรง                   การเลือกปฏิบัติยังคงดำรงอยู่ในกฎ ระเบียบ คำสั่ง หรือการกระทำของรัฐเอง
                 จูงใจให้กับบุคลากรและคนทำงาน ไปจนถึงปัญหาระดับใหญ่และซับซ้อน                          ทำให้กรณีที่ร้องเรียนเข้ามาตามกลไกของกฎหมายฉบับนี้เป็นปัญหาเดิม ๆ
                 ยากต่อการแก้ไขปรับเปลี่ยนอย่างทัศนคติ วิสัยทัศน์ และความรู้ความเข้าใจ                 ประเด็นซ้ำ ๆ แต่กระทำกับเหยื่อรายใหม่ หรือประชาชนกลุ่มอื่น แม้จะเป็น
                 ในประเด็นความเท่าเทียมระหว่างเพศของบุคคลากรในระดับผู้บริหารองค์กรด้วย                 เรื่องสำคัญมากแต่กลับต้องอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของหน่วยงานระดับ

                                                                                                       กรมในกระทรวงซึ่งมีภารกิจและหน้าที่อื่น ๆ จำนวนมาก และมักได้รับ
                   2.5  ความสมดุลระหว่างสิ่งที่รัฐต้องดำเนินการกับ                                     การจัดสรรงบประมาณค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับกระทรวงอื่น ๆ ทั้งที่
                 ประโยชน์ที่เกิดกับประชาชน
                                                                                                       การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ในการพัฒนาประเทศ
                         ต่อประเด็นที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดหน้าที่ให้ประชาชนต้องปฏิบัติตาม                เหล่านี้ยังมิได้กล่าวด้วยว่า ปัญหาของตัวบทบัญญัติแห่งกฎหมายเอง
                 หรือควรต้องแก้ไขกฎระเบียบของตน รวมทั้งการกระทำในลักษณะ                                ในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดระยะเวลาห้าปีไม่ได้รับ
                 ต่าง ๆ เพื่อไม่ให้มีลักษณะเลือกปฏิบัติ หรือความไม่เสมอภาคเกิดขึ้นนั้น                 การตอบสนองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง และไม่มีการแก้ไข
                 ผู้ให้สัมภาษณ์เห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นและคุ้มค่าเนื่องจากจะสร้าง                       ปรับปรุงให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

                 ความเปลี่ยนแปลงในที่ควรจะเป็น และทำให้สังคมมีความเสมอภาคเท่าเทียม
                 กันมากขึ้น ทำให้สิทธิของคนถูกเลือกปฏิบัติดีขึ้น และเมื่อสิทธิเหล่านี้ดีขึ้น             2.6  พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ เมื่อเปรียบเทียบกับ

                 ย่อมทำให้ปัญหาอื่น ๆ อันเป็นผลพวงของการเลือกปฏิบัติยุติลง หรือได้รับ                  มาตรฐานสากลหรือมาตรการที่ใช้อยู่ในต่างประเทศ
                 การแก้ไขตามไปด้วย ดังนั้น การทำเรื่องนี้ให้เป็นจริง แม้ต้องแลกมาด้วย                          ต่อประเด็นนี้ ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีโอกาส
                 ภาระหน้าที่ของรัฐก็ดี หรือหน่วยงานองค์กรทั้งหลายก็ดี ก็ยังคุ้มค่า ในขณะที่            ได้ศึกษา หรือทำงานร่วมกับองค์การระหว่างประเทศ หรือร่วมประชุมสัมมนา
                 ภาคประชาสังคมก็พร้อมช่วยผลักดัน เนื่องจากเห็นแล้วว่าในระยะยาว                         ในเวทีระดับนานาชาติ ต่างตั้งข้อสังเกตและค่อนข้างเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

                 จะทำให้คนทำงานด้านนี้เหนื่อยน้อยลง และอันที่จริงแล้วประเด็น                           ว่า แม้ พ.ร.บ. ความเท่าเทียมฯ จะมีจุดเริ่มต้นและแนวคิดมาจากอนุสัญญา
                 ความเสมอภาคทางเพศ และการไม่เลือกปฏิบัติเป็นเรื่องใหญ่ของสังคม                         CEDAW ก็ตาม แต่เมื่อกฎหมายฉบับนี้ผ่านออกมาและมีผลใช้บังคับ

                 ในระบอบประชาธิปไตย ที่ถูกต้องรัฐไทยควรเห็นความสำคัญของเรื่องนี้                       กลับปรากฎว่าเนื้อหาของกฎหมายก็ดี การใช้การตีความก็ดี รวมทั้งทัศนคติ
                 มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่ที่ผ่านมายังไม่สามารถบอกได้ว่ารัฐไทยให้ความสำคัญ                ความรู้ความเข้าใจในเจตนารมณ์ของกฎหมายของฝ่ายผู้บังคับใช้ ยังค่อนข้าง
                 กับเรื่องนี้อย่างแท้จริง ทั้งยังมองว่าเป็นเพียงปัญหาเฉพาะกลุ่ม โดยสะท้อน              แตกต่างและห่างไกลจากหลักการที่ถูกต้องและมาตรฐานสากลอยู่มาก
                 ออกมาทั้งในแง่ของความไม่จริงจังต่อการผลักดันนโยบายและแก้ไขปัญหา                       บทบัญญัติใน พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ หลายส่วนยังคลุมเครือและ

                 ในระดับโครงสร้าง ขับเน้นการแก้ไขปัญหาและภาระทั้งหมดไปให้กับ                           ไม่สอดคล้องกับหลักสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำว่า “การเลือกปฏิบัติ
                 การวินิจฉัยกรณีการเลือกปฏิบัติเป็นเรื่อง ๆ ไป ในขณะที่ลักษณะของ                       โดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ” และให้นิยามไว้ในมาตรา 3 ว่าหมายถึง




            210    สถาบันพระปกเกล้า                                                                                                                  สถาบันพระปกเกล้า   211
   220   221   222   223   224   225   226   227   228   229   230