Page 102 - 22385_Fulltext
P. 102

การศึกษาการบังคับใช้                     การศึกษาการบังคับใช้
 พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย   พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย



 รูปแบบหนึ่ง ในขณะที่ขั้นตอนของการตรวจสอบการใช้เงินทุนและ    ยังพบด้วยว่า การพิจารณาให้เงินสนับสนุนจะขับเน้นไปที่กิจกรรมเพียง
 การประเมินผลของโครงการที่ได้รับการสนับสนุนก็อาศัยระบบเชื่อมั่นและ    บางลักษณะเท่านั้น ผู้ให้สัมภาษณ์ภาคประชาสังคมให้ความเห็นสอดคล้องกับ
 ไว้วางใจมากกว่าระบบการตรวจสอบการใช้เงินแบบหน่วยงานราชการไทย    ข้อมูลจากกลุ่มผู้บังคับใช้กฎหมายเอง และคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ว่า
 ที่มักตั้งข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ได้รับทุนมีแนวโน้มในทางทุจริต หรือไม่ได้ใช้  โครงการที่ได้รับอนุมัติส่วนใหญ่ คือ โครงการจัดสัมมนาและการฝึกอบรมให้

 เงินทุนไปเพื่อทำโครงการตามที่ยื่นขอไว้    ความรู้พนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐในระดับจังหวัด หรือท้องถิ่น
                   ต่าง ๆ ใน 2 ประเด็น ได้แก่ พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ
   นอกจากปัญหาความยุ่งยากในขั้นตอนการยื่นขอการพิจารณา   52
 อนุมัติ และการประเมินผลดังกล่าวแล้ว ตามประกาศคณะกรรมการบริหาร  พ.ศ. 2558 และความเท่าเทียมระหว่างเพศ  โดยอาจมีสาเหตุมาจากว่า

 กองทุนที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์เงื่อนไขการขอรับทุน ยังกำหนดนิยามของ     การฝึกอบรมและสัมมนา หรือการอบรมเพื่อให้ความรู้เป็นกิจกรรมที่มี
 “ผู้ขอรับเงินสนับสนุน” ไว้หมายเฉพาะ “มูลนิธิ สมาคม ชมรม องค์กร  รูปแบบแน่ชัด สามารถประเมินผลความสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งมี

 สาธารณประโยชน์ หรือองค์กรสวัสดิการชุมนุม หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กร  งบประมาณการจัดการที่สามารถแจกแจงรายละเอียดและตรวจสอบได้
 เอกชน ซึ่งมีผลงานหรือมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการหรือมีโครงการเพื่อ  ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ก็ต้องแลกมาด้วยปัญหาการขาดความหลากหลาย
 ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ...” (ข้อ 2 ของประกาศดังกล่าว) เท่านั้น   ของรูปแบบกิจกรรม และอาจกลายเป็นการปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์แห่ง
 ซึ่งย่อมหมายความว่าผู้มีสิทธิขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ นี้ต้องเป็น  ยุคสมัยด้วย

 องค์กรที่มีการจดทะเบียนจัดตั้ง หรือมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแล้ว    8.4  บทบาท การดำเนินงาน และสภาพปัญหาของ
 เท่านั้น ซึ่งผู้ให้สัมภาษณ์หลายคนเห็นว่าไม่สอดรับกับบริบท และความตื่นตัว  กรมกิจการสตรีฯ และพนักงานเจ้าหน้าที่

 ในประเด็นความเท่าเทียมระหว่างเพศในยุคสมัยปัจจุบัน ที่เริ่มมีเยาวชน      ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่ยังเห็นว่าที่ผ่านมา กองส่งเสริม
 คนรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา หรือกลุ่มบุคคลให้ความสนใจมากขึ้น ทั้งมี  ความเสมอภาคระหว่างเพศ กรมกิจการสตรีฯ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และ
 ความคิดสร้างสรรค์รูปแบบกิจกรรมใหม่ ๆ (ไม่เฉพาะแต่การประชุม    พนักงานเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานทำงานค่อนข้างหนัก และมีความตั้งใจดี
 เชิงปฏิบัติการหรือการอบรบสัมมนา) และอยากมีส่วนร่วมในการสร้าง    แต่ด้วยกลไกที่ถูกออกแบบโดยกฎหมายฉบับนี้ ทัศนคติและความเข้าใจของ

 ความเปลี่ยนแปลงในสังคม แต่เมื่อกลุ่มบุคคลเหล่านี้ไม่ได้มีการจัดตั้งกลุ่ม  ผู้บังคับบัญชาและพนักงานเจ้าหน้าที่บางส่วน ระบบการทำงานแบบราชการ
 อย่างเป็นกิจจะลักษณะ หรือจดทะเบียนก่อตั้งตามกฎหมาย (ซึ่งมีเงื่อนไข
 ค่อนข้างยุ่งยาก) ก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ
                          52
                             ข้อมูลจากคู่มือการขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนกำหนดการพิจารณา
 นี้ได้ ซึ่งผู้ให้สัมภาษณ์ตั้งข้อสังเกตว่า หากกองทุนฯ นี้เปิดกว้างมากขึ้นก็น่าจะ    ค่าใช้จ่าย โดยแบ่งโครงการออกเป็น 3 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 การประชุมเชิงปฏิบัติการ/
 เป็นประโยชน์ และทำให้ประเด็นความเท่าเทียมระหว่างเพศขยายตัวกว้างขวาง   การสัมมนา/การอบรม ประเภทที่ 2 การรณรงค์/เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ประเภทที่ 3
 ประชาชนเข้าถึงและเข้าใจได้ง่ายขึ้น และโดยสืบเนื่องกัน ที่ผ่านมา    การสนับสนุนการจัดทำแผน/การรวบรวม ข้อมูล/การศึกษาวิจัย



 86  สถาบันพระปกเกล้า                                             สถาบันพระปกเกล้า   87
   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107