Page 104 - 22385_Fulltext
P. 104
การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
อัตราการจ้างบุคลากรที่จำเป็นต่อการทำงาน ค่าตอบแทน รวมทั้ง การตรวจสอบ
งบประมาณที่ได้รับการจัดสรร ส่งผลทำให้ยังไม่สามารถกล่าวหรือประเมิน เนื้อหาของ
ได้ว่าในช่วงเวลากว่า 5 ปีของการบังคับใช้พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ การทำงาน
ของหน่วยงานนี้ประสบความสำเร็จ มีประสิทธิภาพ มีแนวโน้มที่จะทำให้ กฎหมาย
กฎหมายฉบับนี้บรรลุเจตนารมณ์ หรือก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใด ๆ อย่าง
มีนัยสำคัญ ประเด็นปัญหาที่ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวถึง ซึ่งในที่นี้หมายรวมถึง
ผู้ให้สัมภาษณ์ที่อยู่ในฝ่ายผู้บังคับใช้กฎหมายเองด้วย มีทั้งปัญหา
การประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจต่อสิทธิต่าง ๆ ตามกฎหมาย
ฉบับนี้ ยังไม่ครอบคลุมกว้างขวางเพียงพอ และหลายกรณีเข้าใจยากหรือ
เป็นการสื่อสารกันเพียงเฉพาะกลุ่ม การสร้างความรับรู้ยังขับเน้นไปที่
หน่วยงานรัฐด้วยกันเอง หรือภาคประชาสังคมที่รู้จักคุ้นเคยหรือเป็น 4
เครือข่ายกันเท่านั้น จำนวนบุคลากรมีน้อยเกินไปไม่สมดุลกับภาระงาน และ
ส่วนใหญ่อยู่ที่หน่วยงานส่วนกลาง จนถึงปัจจุบันยังไม่มีพนักงานเจ้าหน้าที่
ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะที่ประจำอยู่ในภูมิภาคหรือต่างจังหวัด ขาดแคลน
ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิติกรหรือนักกฎหมายที่มีความรู้ความเข้าใจ
ประเด็นบทบาทความสัมพันธ์หญิงชาย (Gender) และความหลากหลาย
ทางเพศด้วย ซึ่งมักส่งผลต่อระยะเวลาในการทำคำวินิจฉัย การใช้การตีความ 1. ความสัมพันธ์หรือใกล้เคียง
กฎหมาย และการบังคับการให้เป็นไปตามคำสั่งของคณะกรรมการ วลพ. ของกฎหมายฉบับนี้กับกฎหมาย
ขาดมาตรการการสร้างความเชี่ยวชาญให้กับเจ้าพนักงาน ทั้งไม่มีผลประโยชน์ ฉบับอื่น
หรือค่าตอบแทนที่เหมาะสมเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับบุคลากรและคนทำงาน จากการศึกษาและสำรวจกฎหมาย
ไปจนถึงปัญหาระดับใหญ่และซับซ้อนยากต่อการแก้ไขปรับเปลี่ยนอย่าง ฉบับต่าง ๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทย ผู้ศึกษาไม่พบ
ทัศนคติ วิสัยทัศน์ และความรู้ความเข้าใจในประเด็นความเท่าเทียมระหว่าง กฎหมายอื่นใดที่มีวัตถุประสงค์ กลไก หรือ
เพศของบุคคลากรในระดับผู้บริหารองค์กรด้วย มาตรการสำคัญใกล้เคียงกับวัตถุประสงค์ หรือ
มาตรการสำคัญของกฎหมายฉบับนี้
88 สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า 89