Page 44 - 4 EDIT โรงเรียนสร้างคน พลเมืองสร้างชาติ The Series เล่ม 1 (2559).indd
P. 44

“อายุมากแล้วจะเรียนทำไม???” (แถวบ้านเรียกว่าแก่แล้ว)
                           แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาต่อการเข้าเรียนโรงเรียนพลเมือง และมองว่าไม่ใช่ปัญหา อุปสรรคของตนเองด้วย ความรู้ไม่
                           มีที่สิ้นสุด และไม่มีใครแก่เกินเรียนแน่นอน สิ่งที่จะเอาชนะคำดูถูกนี้ได้คือ “ทำให้เห็น เป็นให้ดู” (เป็นพลเมืองให้ดู)
                           ความอดทนและพยายามเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จนี้ได้ จากผลงานที่ผ่านมาในการทำโครงการ
                           “เลือกตั้งสมานฉันท์ ไม่ซื้อสิทธิ ขายเสียง” คงจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้แล้วว่าไม่มีใครแก่เกินเรียน และไม่มีอะไรที่
                           เปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเดิม
                                 ปัจจุบัน พ่อพยนต์ ปัญญาภา เป็นพลเมืองจิตอาสาที่พัฒนาตนเองจากนักเรียนโรงเรียนพลเมือง เป็น
                           คุณครูผู้สอนนักเรียนโรงเรียนพลเมืองอื่น ๆ ในจังหวัดร้อยเอ็ด และร่วมเป็นคณะกรรมการสภาพลเมือง
                           ร้อยเอ็ดด้วย เช่นเดียวกันกับเพื่อนรักร่วมรุ่นตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ อย่าง พ่อจตุพล คำแดงไสยย์ หนึ่งในสมาชิก
                           นักเรียนโรงเรียนพลเมืองโพนทอง ที่ร่วมกันทำโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์มาตั้งแต่ต้น และก็กอดคอกันเข้ามา
                           เป็นคณะกรรมการสภาพลเมืองร้อยเอ็ดด้วยเช่นกัน (ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมล่ะทุกคน…)
                                 หากจะไม่พูดถึงนักรบแห่งโพนทองอีกท่านอย่าง พ่อจตุพล คำแดงไสยย์ เห็นที่คงจะเป็นการเสีย
                                 มารยาทจนเกินไปแน่ ๆ เพราะคุณพ่อทั้ง 2 ท่านนี้ ทุ่มเทลงทั้งแรงกายและแรงใจ ทำเพื่อชุมชน และ
                                 พี่น้องชาวร้อยเอ็ดอย่างแท้จริง
                                 …ไม่พูดก็ไม่รู้ ไม่ถามดูก็ไม่ทราบ…
                                 จากการสัมภาษณ์พูดคุยกับ พ่อจตุพล คำแดงไสยย์ เมื่อครั้งพบกันโดยตั้งใจในการถอดบทเรียน
                                                         โครงการโคก หนอง นา โมเดล เมื่อวันที่ 10-11 สิงหาคม 2563
                                                         ที่ผ่านมา คุณพ่อได้กล่าวกลับผู้เขียนไว้ว่า...

                                                                ...“พลเมืองเป็นได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ โดยเริ่มที่ตัวเรา
                                                              ก่อน แล้วค่อย ๆ พัฒนา ขยับ ขยายไปสู่ผู้อื่น”…

                                                               หากเราไม่เริ่มที่ตัวเราในวันนี้ แล้วหวังว่าวันหน้าค่อย
                           เริ่มมันอาจจะช้าไป ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในสังคมเกิดจากการไม่เปลี่ยนแปลงหรือเริ่มต้นที่ตนเอง เพียงแต่
                  หากจะไม่พูดถึงนักรบแห่งโพนทองอีกท่านอย่าง พ่อจตุพล ค�าแดงไสยย์
                           มุ่งหวังให้คนอื่นเปลี่ยน และให้คนอื่นเริ่มต้นก่อน หาคิดเช่นนี้การซื้อสิทธิ ขายเสียงที่เกิดขึ้นในสังคมก็คงไม่
           เห็นทีคงจะเป็นการเสียมารยาทจนเกินไปแน่ ๆ เพราะคุณพ่อทั้ง 2 ท่านนี้ ทุ่มเทลงทั้ง
                           หมดไป เราในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของชุมชน ของประเทศแม้อายุที่มากขึ้นในทุก ๆ วัน การเริ่มต้นอาจจะช้า
           แรงกายและแรงใจ ท�าเพื่อชุมชน และพี่น้องชาวร้อยเอ็ดอย่างแท้จริง
                           กว่าคนวัยหนุ่มสาว แต่หากไม่มีปัญญาชนคนรุ่นหลังอย่างเราทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว คนรุ่นใหม่นี้ก็อาจจะ
                  …ไม่พูดก็ไม่รู้ ไม่ถามดูก็ไม่ทราบ…
                           ยังคงต้องใช้ชีวิตที่เห็นแก่ประโยชชน์ส่วนตนต่อไปอย่างไม่จบสิ้น การซื้อสิทธิ ขายเสียงอาจจะกลายเป็น
                  จากการสัมภาษณ์พูดคุยกับ พ่อจตุพล ค�าแดงไสยย์ เมื่อครั้งพบกันโดยตั้งใจ
                           วัฒนธรรมในอนาคตของประเทศไทยก็ได้ เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงความเริ่มต้นที่ตัวเรา ตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่
           ในการถอดบทเรียนโครงการโคก หนอง นา โมเดล คุณพ่อได้กล่าวกลับผู้เขียนไว้ว่า...
                           ผลของการเปลี่ยนแปลงจะได้ถูกส่งต่อไปยังรุ่นลูก หลาน ของเราได้ในอนาคต...
                  ...“พลเมืองเป็นได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ โดยเริ่มที่ตัวเราก่อน แล้วค่อย ๆ พัฒนา

           ขยับ ขยายไปสู่ผู้อื่น”…                                            พ่อจตุพล คำแดงไสยย์
                  หากเราไม่เริ่มที่ตัวเราในวันนี้  แล้วหวังว่าวันหน้าค่อยเริ่มมันอาจจะช้าไป  นักเรียนพลเมืองโพนทอง

           ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในสังคมเกิดจากการไม่เปลี่ยนแปลงหรือเริ่มต้นที่ตนเอง
           เพียงแต่มุ่งหวังให้คนอื่นเปลี่ยนและให้คนอื่นเริ่มต้นก่อน  หากคิดเช่นนี้การซื้อสิทธิ
           ขายเสียงที่เกิดขึ้นในสังคมก็คงไม่หมดไป เราในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของชุมชน                26
           ของประเทศแม้อายุที่มากขึ้นในทุก  ๆ  วัน  การเริ่มต้นอาจจะช้ากว่าคนวัยหนุ่มสาว

           แต่หากไม่มีปัญญาชนคนรุ่นก่อนอย่างเราท�าให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วคนรุ่นใหม่นี้ก็อาจจะ
           ยังคงต้องใช้ชีวิตที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนต่อไปอย่างไม่จบสิ้น การซื้อสิทธิ ขายเสียง
           อาจจะกลายเป็นวัฒนธรรมในอนาคตของประเทศไทยก็ได้เพราะฉะนั้นการ
           เปลี่ยนแปลงควรเริ่มต้นที่ตัวเรา  ตั้งแต่วันนี้  เพื่อที่ผลของการเปลี่ยนแปลงจะได้ถูก
           ส่งต่อไปยังรุ่นลูก หลาน ของเราได้ในอนาคต...


                                                  พ่อจตุพล ค�าแดงไสยย์
                                              นักเรียนโรงเรียนพลเมืองโพนทอง







                                         I
          32 “โรงเรียนสร้างคน……พลเมืองสร้างชาติ” เล่ม 1   2559
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49