Page 51 - kpi21662
P. 51

หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้น จะได้ห่วงโซ่ผลลัพธ์สำหรับ
                 ทั้งโครงการ โดยอาจแบ่งตามผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละกลุ่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่
                 ต้องใส่ในรายงาน


                 กิจกรรมที่ 5 การเลือกตัวชี้วัด (Social Impact Indicator)

                      หลังจากการเขียนห่วงโซ่ผลลัพธ์ หากผลผลิตมีความเชื่อมโยงกับ
                 ผลลัพธ์มักจะใช้ผลผลิตนั้นเป็นตัวชี้วัดโดยตรง แต่ถ้าผลผลิตยังไม่เชื่อมโยง

                 กับผลลัพธ์ ต้องหาตัวชี้วัดที่เหมาะสม ซึ่งมีวิธีการเก็บข้อมูลหลายรูปแบบ
                 ดังนี้

                        -  ระบบเก็บข้อมูลภายใน (สำหรับผลผลิตสำคัญเป็นหลัก
                          ตัวอย่างเช่น จำนวนผู้สูงอายุที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์การแพทย์

                          ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวนเงินที่ผู้สูงอายุประหยัด
                          ได้จากการไม่ต้องไปพบแพทย์เนื่องจากมีสุขภาพที่ดีขึ้น)

                        -  แบบสำรวจผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (สำหรับผลลัพธ์ต่อผู้มีส่วนได้  คู่มือการประเมินผลลัพธ์ทางสังคมของโครงการพัฒนาท้องถิ่น
                          ส่วนเสียเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น รายได้ที่เพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุที่
                          เข้าอบรมอาชีพในโครงการ)

                        -  แหล่งข้อมูลภายนอก (สำหรับผลลัพธ์ในวงกว้างเป็นหลัก

                          ตัวอย่างเช่น งบประมาณทางสาธารณสุขที่ใช้ในการดูแล
                          ผู้สูงอายุที่ลดลง)

                      ทั้งนี้ ตัวชี้วัดจะต้องสะท้อนผลลัพธ์ต่าง ๆ ในห่วงโซ่ผลลัพธ์ และมี
                 ลักษณะที่สำคัญ คือ ต้องสามารถวัดได้ สามารถแสดงการเปลี่ยนแปลงได้

                 และสามารถใช้เปรียบเทียบข้ามเวลาและองค์กรได้ นอกจากนี้ตัวชี้วัด
                 ผลลัพธ์ ไม่ควรจำกัดอยู่เพียงผลลัพธ์ทางตรงที่เกิดกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
                 เช่น “รายได้ที่เพิ่มขึ้น” หรือ “ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ลดลง”
                 เท่านั้น แต่ควรรวมถึงตัวชี้วัดที่สะท้อนผลลัพธ์ทางสังคมในวงกว้าง เช่น




                                                             สถาบันพระปกเกล้า    1
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56