Page 387 - kpi21190
P. 387
387
สถานการณ์ความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2556 โดยสำนักงานคณะกรรมการ วิเคราะห์เชิงลึกถึงปัจจัยเชิงสาเหตุที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย จะพบว่า มีสาเหตุหลัก
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำมีหลากหลายมิติ เช่น อยู่สองประการด้วยกัน คือ ประการแรก สาเหตุเกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้างของสังคมไทย
และประการที่สอง คือ ปัญหาเชิงวัฒนธรรมทางการเมืองและพฤติกรรมของผู้คนในสังคมไทย
มิติแรก ความเหลื่อมล้ำด้านรายได้หรือการกระจายรายได้ของประเทศไทย พบว่า ซึ่งทั้งสองส่วนมีความเกี่ยวเนื่องและเชื่อมโยงกัน ทำให้สังคมไทยยังคงติดกับดักอยู่กับความ
รายได้ยังคงกระจุกตัวอยู่กับคนกลุ่มเล็กๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนรวย ซึ่งเป็นผลให้เกิดความแตกต่าง เหลื่อมล้ำมาอย่างยาวนาน ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้
ของรายได้ระหว่างกลุ่มคนรวยที่สุด และกลุ่มคนจนที่สุด โดยต่างกันมากถึง 34.9 เท่า
2.1 ปัญหาเชิงโครงสร้างของสังคมไทย
มิติที่สอง ความเหลื่อมล้ำด้านทรัพย์สินทางการเงิน โดยสินทรัพย์ทางการเงินกระจุกตัว
8
อยู่ในกลุ่มคนเล็กๆ กล่าวคือ บัญชีเงินฝากที่มีวงเงินเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป มีเพียงจำนวน คณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) ได้เคยเสนอภาพรวมของปัญหาเชิงโครงสร้าง
111,517 บัญชี หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 0.1 ของจำนวนบัญชีทั้งหมด แต่ในขณะที่บัญชี ซึ่งเชื่อมโยงกัน อันก่อให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างรุนแรงในสังคมไทย โดยสรุปก็คือ
เงินฝากขนาดเล็กวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทมีจำนวน 84 ล้านบัญชี หรือคิดเป็นร้อยละ 99.9 ตัวโครงสร้างของการจัดสรรอำนาจกีดกันมิให้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึง “ทรัพยากร” หรือ
ของจำนวนบัญชีทั้งหมด ซึ่งทำให้เห็นระยะห่างที่ชัดเจนของฐานทรัพย์สินคนมีฐานะร่ำรวยจำนวน เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน คำว่า “ทรัพยากร” ในที่นี้มีความหมายกว้างกว่า ทรัพยากรที่จับต้อง
น้อย เมื่อเปรียบเทียบกับฐานทรัพย์สินของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ได้เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงโอกาสและพลังที่เพิ่มพูนขึ้นในการใช้ประโยชน์จากเงื่อนไขทาง
เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองด้วย คณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) สรุปว่า หากไม่สามารถ
มิติที่สาม ความเหลื่อมล้ำด้านการถือครองที่ดิน ความเหลื่อมล้ำด้านการถือครองที่ดิน ปรับโครงสร้างของการเข้าถึงทรัพยากรดังกล่าว ก็ไม่มีทางที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ในประเทศไทยนับว่าสูงมาก โดยพบว่า มีการถือครองที่ดินที่มีเอกสารสิทธิประเภทโฉนดที่ดิน ซึ่งนับวันจะเลวร้ายยิ่งขึ้นได้ และความเหลื่อมล้ำเป็นสาเหตุแห่งการชะงักงันในเกือบทุกด้านของ
กระจุกตัวอยู่ในคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น โดยมีสัดส่วนกลุ่มผู้ที่ถือครองที่ดินมากที่สุดร้อยละ 20 สังคมไทยเวลานี้
ของคนไทย คิดเป็นการถือครองที่ดินสูงถึงร้อยละ 79.9 ของพื้นที่ทั้งหมด และมีสัดส่วนสูงกว่า
กลุ่มผู้ถือครองที่ดินน้อยที่สุดในประเทศไทยมากถึง 325.7 เท่า คณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) ยังมีความเห็นว่า ความอยุติธรรมหรือการถูกเลือก
ปฏิบัติจากโครงสร้างอำนาจทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ได้สร้างสภาวะความเหลื่อมล้ำหรือ
มิติที่สี่ ความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา มีความเหลื่อมล้ำอย่างมากในเรื่องโอกาสในการเข้าถึง ความไม่เท่าเทียมกันในทุกด้านจนทำให้อำนาจต่อรองของผู้คนต่างๆ ในสังคมที่จะปกป้อง
บริการด้านการศึกษา ระหว่างกลุ่มประชากรที่มีฐานะดีและฐานะยากจน และพื้นที่อยู่อาศัยที่ สิทธิเสรีภาพหรือบรรลุถึงความเท่าเทียมกันเป็นไปได้ยาก โครงสร้างความอยุติธรรมหรือความ
แตกต่างกันในเขตเมือง - ชนบท และระหว่างภูมิภาค โดยเฉพาะการเข้าถึงการศึกษาในระดับ เหลื่อมล้ำดังกล่าว คือ ความรุนแรงที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ และความเหลื่อมล้ำอย่าง
ปริญญาตรี โดยกลุ่มประชากร 10% ที่มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีที่สุด มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา สุดขั้วทุกด้านนับเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่เป็นแกนกลาง อันก่อให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้าง
ระดับปริญญาตรี มากกว่ากลุ่มประชากร 10% ที่มีฐานะความเป็นอยู่ด้อยที่สุดประมาณ 19.1 เท่า ด้านอื่นๆ ตามมาอีก การปฏิรูปการเมืองจึงควรจัดการกับปัญหานี้เป็นหลัก ส่วนสำนักงาน
จึงส่งผลต่อโอกาสในการพัฒนาทักษะ อาชีพ และการสร้างรายได้มีความแตกต่างกันมากขึ้นด้วย คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เสนอปัญหาเชิงโครงสร้าง
9
จะเห็นได้ว่าความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในปัจจุบัน ยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่มีอยู่แล้ว เช่นเดียวกัน อันเป็นปัญหาของระบบโครงสร้างของสังคมไทยที่เอื้อโอกาส หรือเพิ่มช่องว่างให้เกิด
เลวร้ายลงไปอีก ความเหลื่อมล้ำขึ้น ได้แก่
มิติที่ห้า ความเหลื่อมล้ำคุณภาพการให้บริการสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งความ 1) โครงสร้างทางเศรษฐกิจไทย เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มนายทุนมากกว่ากลุ่มแรงงาน
เหลื่อมล้ำของการกระจายบุคลากรทางการแพทย์ โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แพทย์ 1 คน กล่าวคือ ผลประโยชน์จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมาจากฐานของอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ
ต้องให้บริการประชากรสูงถึง 3,918 คน ในขณะที่กรุงเทพมหานครแพทย์ 1 คน ให้บริการ ผลตอบแทนของทุนจึงเป็นของผู้ประกอบการเป็นส่วนใหญ่ ส่วนค่าตอบแทนแรงงานและสวัสดิการ
ประชากรเพียง 1,075 คน ซึ่งแตกต่างกันเกินกว่า 3 เท่า จึงส่งผลต่อคุณภาพการให้บริการที่มี มีเพียงเล็กน้อย จึงกลายเป็นช่องว่างระหว่างชนชั้นและรายได้ที่เห็นได้ชัดเจน
ความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค เป็นต้น 7
8 คณะกรรมการปฏิรูป (คปร.). (2554). แนวทางการปฏิรูปประเทศไทย: ข้อเสนอต่อพรรคการเมืองและ
จากตัวอย่างข้อมูลของสถานการณ์ ที่บ่งชี้สภาพความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยข้างต้น ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง. กรุงเทพฯ: หจก. บางกอกบล็อก. บทความที่ผ่านการพิจารณา
แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยซึ่งมีหลากหลายมิติ แต่เมื่อได้ 9 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2557). รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์
ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ปี 2555. สืบค้นจาก http://social.nesdb.go.th/.
7 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2558). รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2558). รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์
ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ปี 2556. กรุงเทพฯ: บริษัท บี.ซี.เพรส (บุญชิน) จำกัด. ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ปี 2556. กรุงเทพฯ: บริษัท บี.ซี.เพรส (บุญชิน) จำกัด.