Page 369 - kpi21190
P. 369

369



 ใต้บริบทความรุนแรง ก็อาจเปลี่ยนไปในรูปแบบที่นักการเมืองอาจจะต้องพึ่งพาข้อต่อที่จะนำไปสู่  ได้อธิบายถึงบทบาทของนักการเมืองในสภาบางส่วนของงานเช่นกัน นอกจากนั้นแล้วยังมีข้อสรุป
 ประชาชนได้ เนื่องจากบางพื้นที่ก็อาจห่างไกลและมีความเสี่ยงเกินกว่านักการเมืองจะลงไปเอง    ที่น่าสนใจว่า ความรู้สึกที่เป็นชาติพันธุ์เดียวกันยังส่งผลต่อการเลือกผู้แทนด้วยเช่นกัน การที่
                  กลุ่มชาติพันธุ์ถูกกดทับก็อาจส่งผลต่อความรู้สึกร่วมของการเป็นผู้ที่ถูกเลือกปฏิบัติจากรัฐ กระทั่ง
 ดวงยิหวา (2018) ยังชี้ให้เห็นถึงข้อถกเถียงที่น่าสนใจว่า การมีส่วนร่วมทางการเมืองของ  ในที่สุดบางคนก็เลือกไปใช้วิถีทางทหาร บ้างก็ขยับเดินงานเพื่อสังคม ขณะที่อีกหลายคนก็เลือก

 ชาวมลายูมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น แม้ว่าจะมีการมองว่าเพิ่งเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2547  ที่จะตอบโต้กลับผ่านลงเสียงในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นจะส่งผลให้ผู้คน
 แต่งานชิ้นนี้มีการถกเถียงว่าในความจริงการมีส่วนร่วมของประชาชนอาจจะออกมาในรูปแบบอื่น   เลือกใช้วิธีการในการมีส่วนร่วมทางการเมืองในแบบสันติวิธีมากกว่าการหันไปใช้ความรุนแรง เพื่อ
 ที่ไม่ใช่การตั้งขบวนการติดอาวุธและต่อสู้ด้วยความรุนแรง ฉะนั้นการมีส่วนร่วมทางการเมืองของ  ให้หลีกเลี่ยงจากความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เป็นอยู่ งานชิ้นนี้ยังชี้ให้เห็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ
 ชาวมลายูอาจเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 เมื่อมีการประท้วงใหญ่หน้ามัสยิดกลาง เนื่องจากเป็นช่วง  คือ ยิ่งมีความรุนแรงสูงขึ้นในช่วงใด ก็จะยิ่งทำให้เห็นอัตราส่วนของผู้คนที่ออกไปใช้สิทธิมากขึ้น
 ที่เริ่มทำให้การเมืองเรื่องการเลือกตั้งในพื้นที่พัฒนาต่อมาเรื่อยๆ ในกรณีนี้เป็นการตอบโต้
 เหตุการณ์ที่สะพานกอตอ เมื่อมีผู้คนโดนสังหารและเรื่องราวที่คนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น   งานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ ยังมีงานของ James Ockey (โอกีย์, 2560) เรื่อง “การเลือกตั้ง
 ทำให้ประชาชนออกมาประท้วงในเวลานั้น ทำให้เห็นว่าเมื่อรัฐใช้ความรุนแรง สิ่งที่ประชาชน   และบูรณาการทางการเมืองในภาคใต้ของไทย” ในหนังสือ ไทยใต้ มลายูเหนือ: ปฏิสัมพันธ์ทาง

 ที่โต้ตอบ คือ การมีส่วนร่วมทางการเมืองในมิติต่างๆ มากขึ้น จากเหตุการณ์ครั้งนั้น การเลือกตั้ง   ชาติพันธุ์บนคาบสมุทรแห่งความหลากหลาย ซึ่งเป็นอีกชิ้นงานชิ้นแรกๆ ที่วิเคราะห์ในเห็น
 ในปีถัดมา ก็ส่งผลให้ตัวแทนหลายคนสอบตก และเป็นอีกจุดเริ่มต้นของนักการเมืองภายใต้กลุ่ม  พัฒนาการของการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักการเมืองมลายูมุสลิมตั้งแต่อดีต กระทั่งถึงช่วงต้นของ
 วาดะห์หลายๆ คน ซึ่งภายหลังจากนั้นก็มีตัวแทนจากกลุ่มวาดะห์หลายคนที่ประสบความสำเร็จ  ช่วงเวลาในการเกิดความรุนแรง ชุดหนังสือที่ว่าด้วยนักการเมืองท้องถิ่นทั้งสามจังหวัดที่แยก
 จากการชนะการเลือกตั้งอีกหลายคน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งเกิดเหตุการณ์ระลอกใหม่ขึ้น   อธิบายจังหวัดละเล่ม ซึ่งสนับสนุนโดยสถาบันพระปกเกล้าเขียนโดย บูฆอรี ยีหมะ (2549;
 กระทั่งทำให้ผู้แทนจากกลุ่มวาดะห์สอบตกทั้งหมด จากการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ งานวิจัย   2555) และรุจน์จาลักษณ์รายา คณานุรักษ์ (2558) ก็เป็นอีกหนึ่งชุดหนังสือสำคัญที่แม้จะกล่าวถึง

 ชิ้นนี้พบว่า แม้ว่าประชาชนในพื้นที่จะยากจน มีระดับการอ่านเขียนไม่สูงเท่ากับหลายๆ จังหวัด   นักการเมืองท้องถิ่นแต่ก็ได้มีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองระดับชาติที่เป็นตัวแทนจาก
 ในประเทศไทย หรืออาจจะไม่ได้มีการพูดถึงค่านิยมของประชาธิปไตยมากนัก แต่ชาวบ้าน   พื้นที่ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นงานชิ้นที่เป็นที่รู้จักกันดีของดันแคน
 จะตัดสินใจในการเลือกผู้แทนด้วยข้อมูลที่พวกเขามีอย่างตั้งใจ โดยข้อมูลที่ชาวบ้านจะใช้ประกอบ  แม็คคาร์โก เรื่อง ฉีกแผ่นดิน (2557) ก็ได้กล่าวบางส่วนถึงเรื่องของการเคลื่อนไหวของ
 คือ นักการเมืองมีความเกี่ยวข้องกับใคร สังกัดพรรคไหน แหล่งเงินทุนที่แต่ละพรรคนำมาใช้มา  นักการเมืองในพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งในงานของแม็คคาร์โก ได้ระบุผลของงานวิจัยของเขา
 จากแหล่งใด รวมถึงบุคลิกและความสามารถของผู้สมัคร เป็นต้น งานชิ้นนี้จึงได้อีกหนึ่งของสรุป   ในประเด็นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยชิ้นนี้คือ เรื่องของความรู้สึกของคนในพื้นที่ที่มองว่า
 ที่ว่าประชาชนในพื้นที่ที่ไม่ใช่เขตเมืองใหญ่มีเหตุผลในการตัดสินใจเลือกแต่ละครั้งไม่ใช่เพียงแต่  “การเมืองท้องถิ่นควรจะมาจากกลุ่มมลายูมุสลิมเป็นหลักและควรวางนโยบายที่เหมาะสมกับ
 เลือกเพราะเงินเพียงอย่างเดียว ดังเช่นที่มักจะมีความเชื่อกันเช่นนั้นโดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นผู้นำ  ลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นของพื้นที่ ส่วนนักการเมืองในระดับชาติที่ได้รับเลือกตั้งมาจากสามจังหวัด

 ในเมืองใหญ่ และการเลือกของผู้คนในพื้นที่จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากเกิดเหตุการณ์ความ  แห่งนี้ควรเป็นมลายูมุสลิมในพื้นที่ซึ่งสามารถเป็นตัวแทนที่เป็นปากเสียงให้ประชากรในพื้นที่ได้
 รุนแรงรายวัน ก็จะมีแนวโน้มว่าประชาชนจะดูที่ตัวบุคคลมากกว่าพรรคแต่หากว่าเป็นช่วงที่เกิด  อย่างเต็มที่ทั้งยังควรมีกลุ่มหรือพรรคการเมืองของตัวเองซึ่งจะเป็นฐานในการต่อรองกับทาง
 เหตุการณ์ความรุนแรงระดับใหญ่ที่มีรัฐเป็นตัวแสดง ก็มักจะส่งผลให้ประชาชนเลือกที่จะลงโทษ  กรุงเทพฯ” (สมัชชา นิลปัทม์, 2556) นอกจากนั้น แม็คคาร์โก ยังได้สรุปลักษณะของนักการเมือง
 พรรครัฐบาลในขณะนั้นและเลือกพรรคตรงข้ามแทน    ที่เป็นอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้อย่างน่าสนใจว่า 1. เชื้อสายเจ้าเมืองเก่า 2. ใช้ความทุกข์
                  ยากและการต่อสู้ดิ้นรนของครอบครัว 3. เน้นความมีศีลธรรมและคุณธรรมส่วนตัว 4. ใช้ความ
 นอกจากนั้นมีงานลักษณะคล้ายคลึงกันซึ่งเป็นวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกเรื่อง Political   ทุกข์ยากและการต่อสู้ดิ้นรนส่วนบุคคล 5. การอุทิศตนให้แก่ผลประโยชน์ของท้องถิ่นและ

 Participation during Conflict: A Case Study of  the Conflict Areas in Songkhla and   การบริการชุมชน 6. สถานภาพด้านศาสนา และ 7. เป็นชาวพุทธผู้จริงใจและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
 Pattani Provinces of Thailand ของ ธนิกุล จันทรา (Chantra, 2017) ซึ่งได้ศึกษาเปรียบเทียบ
 พื้นที่ที่มีระดับความรุนแรงสูงและระดับความรุนแรงไม่สูงนัก เพื่ออธิบายถึงระดับการมีส่วนร่วม  ขณะเดียวกัน วิทยานิพนธ์ของอิมรอน ซาเหาะ (2558) เรื่อง “แนวคิดอิสลามการเมือง
 ทางการเมืองของผู้คนว่าจะเกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่อยู่ภายใต้ความรุนแรงหรือไม่ โดยงานชิ้นนี้อธิบาย  และสันติภาพของพรรคการเมืองมุสลิมในประเทศไทย” ซึ่งได้ศึกษาแนวคิดของกลุ่ม
 ว่าผู้คนในพื้นที่ความขัดแย้งจะมีแนวโน้มในการมีส่วนร่วมทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะ  พรรคการเมืองมุสลิมเล็กๆ ที่ตั้งขึ้น และได้เสนอแนะในส่วนหนึ่งของงานว่า แนวทางการเมือง   บทความที่ผ่านการพิจารณา

 เป็นการมีส่วนร่วมในรูปแบบที่ผ่านการเลือกตั้งหรือแนวทางทางการเมืองในรูปแบบอื่นๆ และยังได้  อาจเป็นแนวทางเลือกสำหรับการเคลื่อนไหวที่ปราศจากความรุนแรงของพื้นที่ชายแดนใต้ได้ นับว่า
 ข้อสรุปว่าหากรัฐจำกัดหรือปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้คน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มี  เป็นข้อเสนอแนะสำคัญที่งานวิจัยชิ้นนี้ต้องการสานต่อเพื่อให้เห็นภาพชัดยิ่งขึ้น กรอบแนวคิดเรื่อง
 ความเปราะบางอยู่แล้วก็จะมีแนวโน้มที่ทำให้เกิดความขัดแย้งที่เข้มข้นขึ้น ในงานวิจัยชิ้นนี้   เกี่ยวกับ “นักการเมือง” และอิสลามกับการเมือง จะเป็นกรอบคิดหลักที่ผลักงานชิ้นนี้ให้เริ่มเดิน
   364   365   366   367   368   369   370   371   372   373   374