Page 47 - kpi20899
P. 47
“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี” โดย ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์
ประชากรในพื้นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยท้าการปลูกพืช
ไร่ พืชสวน เช่น การท้าไร่สับปะรด การปลูกมันส้าปะหลัง ปลูกไม้ยูคา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงสัตว์
เช่น การเลี้ยงวัว เลี้ยงสุกร เลี้ยงแพะ เพื่อจ้าหน่ายและบริโภคในครัวเรือน รวมถึงการประกอบอาชีพอื่นๆ
เช่น การค้าขาย เปิดร้านขายของช้าในหมู่บ้าน โดยน้าสินค้าอุปโภคบริโภคของใช้ในครัวเรือน อุปกรณ์และ
เครื่องมือทางการเกษตรมาจ้าหน่าย ทั้งนี้ในปัจจุบันประชากรวัยแรงงาน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวได้มีการ
ออกไปท้างานรับจ้างในสถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรมทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดราชบุรีอีกด้วย
4.2 ความเป็นมาของชุมชน: อดีตที่อุดมสมบูรณ์และความเปลี่ยนแปลงที่ได้เรียนรู้
ความเป็นมาของชุมชนหนองพันจันทร์ สามารถเล่าย้อนกลับไปได้ในช่วง พ.ศ.2500 เป็นต้นมา
ซึ่งหากนับเป็นช่วงอายุคน ประวัติศาสตร์ชุมชนแห่งนี้จึงมีระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วอายุคน บุคคลที่สามารถ
เล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ชุมชนได้จึงเป็นกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 40-70 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ยังมีก้าลัง
มีความสามารถในการท้างานเพื่อการพัฒนาชุมชนอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งในหัวข้อแรกนี้ ผู้วิจัยจะได้น้าเสนอ
ให้เห็นข้อมูลพื้นฐานของชุมชน ในมิติทางประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชุมชน การอยู่อาศัยและวิถีการ
ผลิตของผู้คนในสมัยก่อน เพื่ออธิบายให้เห็นรากฐานของการพัฒนาความสัมพันธ์ผ่านเรื่องราวทาง
ประวัติศาสตร์ภายใต้บริบทของการพัฒนาในแต่ละยุคสมัย อันเป็นเงื่อนไขส้าคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาและ
ก่อรูปพลวัตการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน้้าบนพื้นฐานประชาธิปไตยชุมชนในปัจจุบัน
4.2.1 ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติในยุคบุกเบิก
ในอดีตพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนหนองพันจันทร์ในปัจจุบันนั้นเป็นพื้นที่ป่าที่มีความอุดม
สมบูรณ์ เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนเผ่ากะเหรี่ยงกลุ่มหนึ่งจากการศึกษาข้อมูลเชิงเอกสาร มีผู้สันนิษฐานว่า
กะเหรี่ยงกลุ่มราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ น่าจะอพยพโยกย้ายมาจากเมืองทวายในพม่า
ชาวกะเหรี่ยงรุ่นเก่าที่อยู่ในต้าบลสวนผึ้งเล่าต่อกันมาว่า ราว 200 ปีเศษ ถูกพม่า รุกรานจึงพากันอพยพ
ข้ามเทือกเขาตะนาวศรีเข้าชายแดนไทยทางอ้าเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี แล้วแยกย้ายกันไปอยู่ที่
จังหวัดราชบุรี กระจายอยู่ในต้าบลสวนผึ้ง ต้าบลบ้านบึง ต้าบลบ้านคา และต้าบลตะนาวศรี นอกจากนี้ยังมี
ต้าบลยางหัก อ้าเภอปากท่อในปัจจุบันด้วย (ส้านักศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏจอมบึง, ออนไลน์)
สอดคล้องกับค้าสัมภาษณ์ของชาวบ้านผู้ใช้น้้าท่านหนึ่งที่บอกเล่าให้เห็นสภาพโดยทั่วไปของพื้นที่ ในช่วง
แรกที่เริ่มมีผู้คนอพยพเข้ามาจับจองพื้นที่ท้ากินและอยู่อาศัยที่ว่า
46