Page 36 - kpi20899
P. 36
“การถอดบทเรียนชุมชนเพื่อการปฏิรูปกระบวนการจัดการทรัพยากร : พลวัตแห่งการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรน ้า
ในพื นที่ต้าบลหนองพันจันทร์ อ้าเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี” โดย ดร.ปริชัย ดาวอุดม และนายเจษฎา เนตะวงศ์
3.1.1 การเลือกกลุ่มผู้ให้ข้อมูล
ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ท้าการเลือกผู้ให้ข้อมูลโดยยึดจุดมุ่งหมายของการวิจัยเป็นหลัก
(purposeful sampling) ซึ่งเป็นการเลือกผู้ให้ข้อมูลที่มีโครงสร้างไม่เคร่งครัด แต่มีเป้าหมายเพื่อให้ได้ตัวอย่าง
ที่เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายของการวิจัย อีกทั้งไม่ได้พิจารณาเฉพาะการได้มาซึ่งผู้ให้ข้อมูลส้าคัญเท่านั้น แต่ยัง
พิจารณาจากบริบท เหตุการณ์และกระบวนการทางสังคมที่สอดคล้องกับเรื่องที่ท้าการวิจัยอีกด้วย ซึ่งในการ
วิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้เลือกผู้ให้ข้อมูลส้าคัญ (key informant) จากคณะกรรมการกลุ่มผู้ใช้น้้าทุกกลุ่มในต้าบล
หนองพันจันทร์ และผู้น้าชุมชนทั้งผู้น้าโดยต้าแหน่งและผู้น้าตามธรรมชาติ ซึ่งได้มาด้วยการเลือกอย่าง
เจาะจง จากนั้นได้เลือกจากการแนะน้าต่อๆ กันไป ท้าให้ได้กลุ่มผู้ให้ข้อมูลที่หลากหลายขึ้น ทั้งสมาชิกผู้ใช้
น้้าในชุมชนและผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ยังจ้าเป็นต้องเลือกผู้ให้
ข้อมูลส้าคัญที่แย้งกับข้อค้นพบในการศึกษา ทั้งนี้เพราะการวิจัยโดยวิธีวิทยาฐานรากนั้น จะเก็บข้อมูลควบคู่
ไปกับการตั้งสมมติฐานชั่วคราว นักวิจัยจึงมีหน้าที่ค้นหาผู้ให้ข้อมูลที่แตกต่างหรือแย้ง (negative case) ไป
จากข้อมูลที่มีอยู่และสมมติฐานชั่วคราวที่ได้ตั้งขึ้นจนกว่าข้อมูลที่ได้จะถึงจุดอิ่มตัว
การวิจัยนี้มุ่งถอดบทเรียน เงื่อนไขและกระบวนการที่ส่งผลต่อความส้าเร็จในการบริหารจัดการ
น้้าของชุมชนหนองพันจันทร์เพื่อถอดบทเรียนการจัดการทรัพยากรน้้าของชุมชน ตามแนวทางการปฏิรูป
การจัดการทรัพยากรน้้าตามร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และดังนั้นกลุ่มเป้าหมายที่เลือกเก็บ
ข้อมูลจึงเกิดขึ้นจากการเลือกเชิงทฤษฎี (Theoretical sampling) เพื่อให้สอดคล้องกับการตอบโจทย์วิจัย
ในขั้นต้น แล้วจึงได้มีการน้าข้อมูลมาวิเคราะห์จัดระบบหมวดหมู่ น้าไปสู่การเลือกผู้ให้ข้อมูลคนต่อๆ ไป
ที่จะตอบค้าถามวิจัยและท้าให้ทฤษฎีมีความสมบูรณ์ได้ ซึ่งกระบวนการนี้ผู้วิจัยได้ด้าเนินการตั้งแต่การ
สัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลคนแรก ก่อนที่จะไปสู่การสัมภาษณ์คนที่สอง สามและสี่ และจากการวิเคราะห์ข้อมูลจาก
คนที่ 1-4 ก็น้าไปสู่การเลือกผู้ให้ข้อมูลในล้าดับถัดไป จนกระทั่งข้อมูลที่ได้เกิดความอิ่มตัวเชิงทฤษฎีกล่าวคือ
ไม่มีข้อมูลที่จะเข้ามาเพิ่มหมวดหมู่ องค์ประกอบ หรือคุณสมบัติส้าคัญของข้อเสนอเชิงทฤษฎีได้อีก
อย่างไรก็ตามดังที่ได้กล่าวข้างต้นแล้วว่า ประเด็นและบริบทของชุมชนหนองพันจันทร์ไม่ได้มี
ความสลับซับซ้อนมากนัก ประกอบกับในการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยค่อนข้างที่จะใช้เวลาและระมัดระวังอย่าง
มากในการเก็บข้อมูล สัมภาษณ์เดี่ยวแบบลึก และการสนทนากลุ่ม ตลอดจนการวิเคราะห์และจัดหมวดหมู่
ของข้อมูลทีละขั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท้าให้การเลือกตัวอย่างเชิงทฤษฎีในแต่ละขั้นตอนมีความรอบคอบ
และตอบโจทย์การวิจัยได้หลากหลายมิติครบถ้วน ท้าให้ทฤษฎีถึงจุดอิ่มตัวได้โดยการสัมภาษณ์แบบลึกจาก
ผู้ให้ข้อมูลส้าคัญจ้านวน 18 คน โดยมีเกณฑ์ในการพิจารณา ประกอบด้วย
35