Page 83 - kpi20889
P. 83

บทที่ 4 การดําเนินงานของโรงเรียนโรงเรียนจีนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกลาเจาอยูหัว    72



                       เหตุการณหนึ่งที่สําคัญคือ สหภาพแรงงานในเซี่ยงไฮภายใตการนําของพรรคคอมมิวนิสตจีน

               ดําเนินการประทวงพรอมอาวุธตอตานขุนศึกในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2470 (ค.ศ. 1927) และใหความสนับสนุน
               ตอกองทัพของพรรคกกมินตั๋งที่กําลังจะมาถึงเซี่ยงไฮ เมื่อเจียงไคเช็คเขาเมืองเซี่ยงไฮได ก็ประกาศยกยอง

               สหภาพแรงงาน แตในเดือนเมษายนปเดียวกัน เจียงไคเช็คกลับใชกําลังโจมตีสหภาพแรงงานและคนของพรรค

               คอมมิวนิสตจีนจนเกิดการนองเลือดในเซี่ยงไฮ ดวยเหตุนี้ รัฐบาลของพรรคกกมินตั๋งที่อูฮั่นจึงสั่งปลดเจียงไค
               เช็คออกจากตําแหนงผูบัญชาการกองทัพ เจียงไคเช็คที่มีกองทัพอยูในมือจึงออกไปตั้งรัฐบาลที่เมืองนานกิง

               ภายหลังจากที่ถูกปลดจากตําแหนงเพียงวันเดียว แตตอมาไมนาน รัฐบาลที่อูฮั่นก็แยกทางกับพรรค

               คอมมิวนิสตและกลับไปรวมกับรัฐบาลที่นานกิง เจียงไคเช็คไดตําแหนงผูบัญชาการกองทัพอีกครั้งหนึ่ง และ
               รัฐบาลที่อูฮั่นก็ยุบลงในป พ.ศ. 2471 (ค.ศ. 1928)

                       ตอมาในปเดียวกัน เจียงไคเช็คยกทัพขึ้นไปเพื่อยึดเอาดินแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือจากขุนศึก

               ญี่ปุนสงทัพของตนมายึดเมืองจี่หนาน เพื่อขัดขวางกองทัพของเจียงไคเช็ค ทั้งสองฝายปะทะกันอยางรุนแรง
               ทหารญี่ปุนใชปนยิงทหารจีนและชาวบานลมตายหลายคน วันที่ 3 พฤษภาคม ทหารญี่ปุนบุกโจมตีฝายจีน

               สังหารผูเจรจาพิเศษทางการทูตประจํามณฑลชานตงของรัฐบาลกกมินตั๋งและขาราชการอื่น ๆ รวม 17 คน

               ปลนสะดมชาวบาน ขมขืนหญิงจีน เขนฆาชาวเมืองจี่หนานราว 5,000 คน เหตุการณนี้ถูกเรียกวา
               “โศกนาฏกรรมจี่หนาน”

                       อยางไรก็ดี ในที่สุด เจียงไคเช็คก็สามารถปราบขุนศึกตาง ๆ และทําใหประเทศจีนเปนอันหนึ่งอัน

               เดียวกันไดสําเร็จ (ในระดับหนึ่ง) ในป พ.ศ. 2471 (ค.ศ. 1928) และใหเมืองนานกิงเปนเมืองหลวง
                       แตกระนั้น เจียงไคเช็คก็ยังตองเผชิญปญหาความวุนวายตาง ๆ ภายในประเทศ ดังตอไปนี้

                       1. ปญหาจากขุนศึกที่ยังตกคางอยูบางกลุม ซึ่งแมจะแสดงวายอมใหความรวมมือกับรัฐบาลของเจียง

               ไคเช็ค แตก็จะไมยอมใหรัฐบาลทําการใด ๆ ที่ตนตองเสียประโยชน
                       2. ปญหาความขัดแยงภายในพรรคกกมินตั๋ง สมาชิกพรรคบางคนประกาศตัวเปนปฏิปกษกับรัฐบาล

               เจียงไคเช็ค เพราะไมเห็นดวยกับนโยบายของรัฐบาล

                       3. การปราบปรามพรรคคอมมิวนิสต หลังจากที่เจียงไคเช็คไดสังหารผูที่เปนสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต
               และสมาชิกพรรคกกมินตั๋งที่มีความคิดเอนเอียงไปทางคอมมิวนิสตเปนจํานวนมาก พวกเขาจึงหลบหนีไปตั้งมั่น

               อยูที่ภูเขาจิ่งกัง ซึ่งเปนเขตรอยตอระหวางมณฑลหูหนานและมณฑลเจียงซี ในป พ.ศ. 2471 (ค.ศ. 1928) และ

                                                          3
               จะเปนฐานที่มั่นในการทําสงครามปฏิวัติระยะยาว 2  เตรียมการตอสูดวยอาวุธ โดยยึดชาวนาเปนหลักกําลัง
               สําคัญในการปฏิวัติ ตอมาไดมีการยายฐานที่มั่นไปอยูที่เมืองรุยจิน ในป พ.ศ. 2474 (ค.ศ. 1931) อยูบริเวณ

               พรมแดนมณฑลเจียงซี และมณฑลฮกเกี้ยน

                       หลังจากนั้น พรรคคอมมิวนิสตจีนก็ทยอยสรางฐานที่มั่นจนมีมากกวา 10 แหง และตั้งกองทัพแดง
               นับตั้งแตปลายป พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) เปนตนมา เจียงไคเช็คไดพยายามโจมตีฐานที่มั่นของพรรค





                       3  ทวีป วรดิลก, ประวัติศาสตรจีน, 924.
   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88