Page 285 - kpi20767
P. 285

260



                       3 และมีนัยส าคัญทางสถิติ เท่ากับ .13 (Sig. = .13) ซึ่งมากกว่านัยส าคัญทางสถิติที่ก าหนดไว้ในการ
                       วิจัย โดยสามารถแปลผลได้ว่า กลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต าแหน่งต่างกัน มีระดับการ

                       ด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลัก

                       ธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักนิติธรรม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
                                 2) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการ

                       ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักคุณธรรม

                       จ าแนกตามต าแหน่งของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีค่า F เท่ากับ .89 ที่องศาความเป็นอิสระ (df) เท่ากับ 3
                       และมีนัยส าคัญทางสถิติ เท่ากับ .65 (Sig. = .65) ซึ่งมากกว่านัยส าคัญทางสถิติที่ก าหนดไว้ในการวิจัย

                       โดยสามารถแปลผลได้ว่า กลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต าแหน่งต่างกัน มีระดับการด าเนินงาน

                       ตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาล
                       ในองค์ประกอบหลักคุณธรรมไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05

                                 3) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการ

                       ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักความ
                       โปร่งใสจ าแนกตามต าแหน่งของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีค่า F เท่ากับ 1.08 ที่องศาความเป็นอิสระ (df)

                       เท่ากับ 3 และมีนัยส าคัญทางสถิติ เท่ากับ .36 (Sig. = .36) ซึ่งมากกว่านัยส าคัญทางสถิติที่ก าหนดไว้

                       ในการวิจัย โดยสามารถแปลผลได้ว่า กลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต าแหน่งต่างกัน มีระดับการ
                       ด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลัก

                       ธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักความโปร่งใส ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05

                                 4) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการ
                       ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักการมีส่วน

                       ร่วมจ าแนกตามต าแหน่งของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีค่า F เท่ากับ .94 ที่องศาความเป็นอิสระ (df)

                       เท่ากับ 3 และมีนัยส าคัญทางสถิติ เท่ากับ .57 (Sig. = .57) ซึ่งมากกว่านัยส าคัญทางสถิติที่ก าหนดไว้
                       ในการวิจัย โดยสามารถแปลผลได้ว่า กลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต าแหน่งต่างกัน มีระดับการ

                       ด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลัก

                       ธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักการมีส่วนร่วม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
                                 5) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการ

                       ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลในองค์ประกอบหลักความรับ

                       ผิดพบว่า มีค่า F เท่ากับ 1.02 ที่องศาความเป็นอิสระ (df) เท่ากับ 3 และมีนัยส าคัญทางสถิติ เท่ากับ
                       .45 (Sig. = .45) ซึ่งมากกว่านัยส าคัญทางสถิติที่ก าหนดไว้ในการวิจัย โดยสามารถแปลผลได้ว่า กลุ่ม

                       ตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต าแหน่งต่างกัน มีระดับการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการ
   280   281   282   283   284   285   286   287   288   289   290