Page 427 - kpi19912
P. 427

กิจกรรมต่างๆ เช่น การยื่นหนังสือร้องเรียน ขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  การจัด
                   ปราศรัย   การเล่นดนตรี การจัดนิทรรศการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้ง การปิด

                   ถนน  การออกแถลงการณ์ ปิดน่านน้ า ปิดอ่าว  การใช้เพจเฟสบุ๊ค การใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก การใส่
                   ชุดด า ชุดขาว การบนบานศาลกล่าว การให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เป็นต้น การชุมนุมในบางครั้งก็
                   อาจจะท าให้เกิดการรุนแรงท าให้เกิดความเสียหายทั้งทรัพย์สินและหรือร่างกาย บางกรณีถึงกับชีวิต
                   ประโยชน์ส าคัญอีกประการหนึ่งคือ การชุมนุมในที่สาธารณะนี้จะเป็นการสร้างสถานการณ์ที่ท าให้

                   สื่อมวลชนให้ความสนใจมาท าข่าว อันจะเป็นการช่วยขยายประเด็นปัญหาเพื่อเรียกร้องความสนใจใน
                   การแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล  แต่อย่างไรก็ตาการชุมนุมนี้ควรมีการท าอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการ
                   กระตุ้น หากท าไม่ต่อเนื่อง การแก้ไขจะมีความล้าช้าได้เช่นกัน

                          ในปัจจุบันนี้ การรวมกลุ่มชุมนุมจะมีลักษณะเป็นเครือข่ายในภาคหรือ ระหว่างภาคในกรณีที่
                   มีปัญหาเดียวกัน เพื่อเป็นการสร้างกระแสสังคมให้มีความสนใจต่อปัญหาความขัดแย้งมากขึ้น เช่น
                   กลุ่มอนุรักษ์แม่ร าพึง จะมีการร่วมมือกับกลุ่มอนุรักษ์บ้านกรูด-บ่อนอก กลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก  และ
                   เครือข่ายอนุรักษ์ภาคตะวันออก เป็นต้น  การรวมกลุ่มเครือข่ายจะมีข้อดี เช่น การสร้างวัฒนธรรม
                   จิตส านึกพลเมืองที่จะดูแลรับผิดชอบสังคม  การเป็นพลังต่อรองกับหน่วยงานของรัฐ และที่ส าคัญคือ

                   การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
                          ส าหรับรูปแบบการแก้ไขปัญหาที่ภาครัฐใช้ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ได้แก่
                          1.  การให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความขัดแย้งนั้นไปด าเนินการแก้ไขเบื้องต้น และ

                   ในหลายกรณี นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนงานในจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ลงพื้นที่
                   ดูแลปัญหา
                          2.  การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อจะได้ทราบ
                   ปัญหาและความต้องการในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

                          3.  การเจรจาไกล่เกลี่ยโดยคนกลาง ในหลายกรณีที่คู่ขัดแย้งไม่สามารถตกลงกันได้ จะมีคน
                   กลางเข้ามาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย
                          4.  กระบวนการทางนิติบัญญัติ ใช้กฎ กระทรวง พระราชบัญญัติ
                          5.  กระบวนการทางศาล เช่น ป้อมมหากาฬ เหมืองทองค า  เป็นต้น


                   5. กลยุทธ์ในการจัดการความขัดแย้ง
                          จากการศึกษาพบว่า กลยุทธ์หลักที่ใช้ในการจัดการขัดแย้งมีดังนี้

                          1.การเจรจาระหว่างฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง แต่ในหลายกรณี ก็ไม่สามารถเจรจากันเองได้ก็ต้อง
                   เปลี่ยนมาใช้วิธีการเจรจาไกล่เกลี่ยคนกลาง ซึ่งหมายถึง การที่คู่กรณีพยายามที่จะแก้ปัญหาความ
                   แตกต่างระหว่างกันโดยความช่วยเหลือของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่สามที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
                   โดยที่ต่างฝ่ายต่างต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพื่อรับฟังความต้องการที่แท้จริงของอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น

                   กรณีปัญหาแรงงานต่างด้าวที่จังหวัดจันทบุรี ได้มีการให้เจ้าหน้าที่ต ารวจเป็นคนกลางในการเจรจา
                   ระหว่าง ผู้แทนแรงงานต่างด้าว สถานประกอบการ และจัดหางานจังหวัด  เป็นต้น
                          2.  การท าประชาเสวนาหาทางออก (Deliberative  dialogue) แทนที่ประชาพิจารณ์

                   (Public hearing) ในหลายกรณีชาวบ้านได้มีการขอให้หน่วยงานภาครัฐในการจัดประชาพิจารณ์ แต่
                   จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในหลายโครงการที่ได้มีการจัดประชาพิจารณ์ ก็พบว่า เป็นการประชา
                   พิจารณ์เทียม หรือ จัดตั้ง โดยผู้เข้าร่วมอาจจะมีเพียงฝ่ายเดียวคือ ฝ่ายที่สนับสนุนโครงการฯ  การใช้
                   รายชื่อปลอม  การใช้อารมณ์ในการพูดกัน เป็นต้น จึงท าให้ความขัดแย้งนั้นยังคงอยู่ หรือมีการขยาย


                                                           422
   422   423   424   425   426   427   428   429   430   431   432